Football Sponsored

วรชิต-ณัฐยศ สองแข้งชลบุรีควงคู่สำเร็จหลักสูตรอบรมโค้ชฟุตบอลพื้นฐาน

Football Sponsored
Football Sponsored

วรชิต-ณัฐยศ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และ ณัฐยศ พลเยี่ยม 2 แข้งฉลามชล ไม่ปล่อยเวลาว่างให้เปล่าประโยชน์ ควงคู่จบหลักสูตรอบรมพื้นฐานการเป็นโค้ช ที่จังหวัดชลบุรี

วรชิต-ณัฐยศ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และ ณัฐยศ พลเยี่ยม ดาวเตะฉลามชลควงคู่กัน พร้อมทีมสต๊าฟอคาเดมี “มาร์ค” ณัฐวัตร ธนสิทธิ์วงศา จบหลักสูตรพื้นฐานการเป็นโค้ช FA Thailand Introducory Course ที่ชลบุรี สเตเดียม

หลังจากจบหลักสูตรมี “บิ๊กตุ๋ย” ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ อุปนายกฝ่ายสื่อสารองค์กร สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรี เป็นผู้มอบประกาศนียบัตรแก่ผู้จบหลักสูตร

  • สมาคมลูกหนัง ยันช้างศึกไม่กระทบ แม้ ‘อุ้ม-เจ-’ ชวดรับวัคซีนโควิด-19

โดย “ยิม” วรชิต จอมทัพชลบุรี เอฟซี วัย 24 ปี ที่ผ่านการอบรมโค้ชในครั้งนี้ กล่าวว่า “ถึงแม้อายุผมแค่ 24 ปี และตอนนี้ผมยังเป็นนักฟุตบอลอยู่ แต่ผมมองว่าอนาคคตไม่มีอะไรแน่นอน และช่วงนี้ผมว่างด้วย ผมอยากมารู้อะไรที่ไม่เคยรู้ สมัยเด็กผมอาจจะยังไม่รู้ในศาสตร์ฟุตบอลมากพอ แต่พอมาเรียนได้รู้รายละเอียดมากขึ้น”

“รายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับฟุตบอล ผมอาจจะขาดความรู้ไป จึงทำให้บางอย่างผมไม่เข้าใจ แต่พอผมได้มาอบรม และเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นโค้ช สิ่งนี้ทำให้เราสามารถไปสอนน้องๆ ในทีมได้ และผมเอารายละเอียดที่ผมเรียนรู้มา มาพัฒนาตัวผมเอง เพราะรายละเอียดส่วนลึกของฟุตบอลนั้นเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ”

สำหรับ “ยิม” วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ มิดฟิลด์ ชลบุรี เอฟซี วัย 24 ปี เป็นเด็กอคาเดมี ชลบุรี รุ่นแรกอย่างเป็นทางการของสโมสร และ “เจ้ายิม” ยังมีชื่ออยู่ใน 47 คน ของทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ที่เตรียมจะเข้าแคมป์กับเพื่อนร่วมทีมชาติไทย ในเดือนพ.ค.นี้ เพื่อตัดตัวให้เหลือ 23 คนสุดท้าย ก่อนเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่กำลังจะมาถึง

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.