Football Sponsored

พีพีทีวียิงสดศึก”วันแดงเดือด”ปีศาจแดง ฟัด หงส์แดง อาทิตย์ที่ 2 พ.ค.นี้

Football Sponsored
Football Sponsored

    พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 ระเบิดความมันส์ต้อนรับโค้งสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก ด้วยการถ่ายทอดสด บิ๊กแมตช์ที่แฟนบอลทั่วโลกต้องไม่พลาด “ศึกศักดิ์ศรี วันแดงเดือด” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะ ลิเวอร์พูล วันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค. นี้ เวลา 22.30 น. โดยเริ่มวอร์มเครื่องให้แฟนบอลได้มันส์กันก่อน กับแมตช์ คริสตัล พาเลซ พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันเสาร์ที่ 1 พ.ค. นี้ เวลาดีน่าดู 18.30 น.

     สำหรับสัปดาห์นี้การันตีเลยว่าแฟนฟุตบอลทั่วโลกต่างจับจ้องมาที่สังเวียนพรีเมียร์ลีก กับบิ๊กแมตช์ดุเดือด และเป็นกระแสยาวนานที่สุดแมตช์หนึ่งบนหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังอังกฤษ ซึ่งแฟนบอลไทยเรียกว่า “ศึกแดงเดือด” “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล โดยทั้งคู่ จัดเป็นสองสโมสรที่ประสบความสำเร็จ และมีแฟนบอลติดตามเบอร์ต้น ๆ ของโลก 

    โดยเฉพาะแฟนบอลในประเทศไทย เห็นได้จากปรากฏการณ์ที่เหล่า “เดอะค็อป” ต่างพากันใส่เสื้อทีมรักออกมาเฉิดฉาย ตอนที่ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกหนแรกไปเมื่อฤดูกาลก่อน ซึ่งในฤดูกาลนี้แม้ทั้งคู่ จะหมดลุ้นแชมป์ไปแล้ว แต่ด้วยศักดิ์ศรีที่ค้ำคอ ย่อมไม่มีใครยอมกันอย่างแน่นอน โดยในฤดูกาลนี้ ทั้งคู่เปิดศึกกันไปแล้วถึง 2 ครั้ง 

    ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยการฟัดกันหนแรกเป็นเกมพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์ บ้านของลิเวอร์พูล ผลเสมอกันไปแบบไม่มีสกอร์ 0-0  และครั้งที่ 2 เป็นการเจอกันในฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ รอบที่ 4 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด บ้านของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเจ้าบ้านเป็นฝ่ายเฉือนชนะไป 3-2

    และสัปดาห์นี้ทั้งคู่จะต้องมาคิดบัญชีแค้นกันอีกครั้ง ในศึกพรีเมียร์ลีก โดย ปีศาจแดง จะเป็นฝ่ายเปิดบ้านต้อนรับ หงส์แดง อีกครั้ง ซึ่งดูจากสถานการณ์ล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ดูจะฟอร์มเข้าฝักและสบายตัวกว่า ด้วยการรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูง มีคะแนนทิ้งอันดับ 3 อยู่ถึง 5 คะแนน ในขณะที่ ลิเวอร์พูล ทีมเยือนประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายคนจนรั้งอยู่อันดับที่ 6 และดูต้องลุ้นหนักในการไต่อันดับขึ้นสู่ท็อปโฟร์

     สำหรับสถิติการพบกันใน พรีเมียร์ลีกของทั้งคู่ ก็เป็นฝั่งเจ้าบ้านที่ดูเหนือกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 68 ครั้ง ลิเวอร์พูล 57 ครั้ง และ เสมอกัน 50 ครั้ง โดยหากเจาะไปยังสถิติการพบกันในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด ปีศาจแดง คว้าชัยไปมากถึง 43 ครั้ง เสมอ 28 ครั้ง และหงส์แดง เคยบุกมาคว้าชัยได้เพียง 16 ครั้ง เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี ประกอบกับความแค้นจากบอลถ้วย และสามแต้มที่เปี่ยมความหมายสำหรับหงส์แดง แมตช์นี้จึงสามารถการันตีความมันส์ได้อย่างแน่นอน เปิดจอรอลุ้นไปพร้อมกัน วันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค. นี้ เวลา 22.30 น. 

     และห้ามพลาด! วันเสาร์ที่ 1 พ.ค. นี้ เวลา 18.30 น. พีพีทีวี ยังวอร์มเครื่องให้แฟนบอลได้ชมฟอร์มร้อนแรงของจ่าฝูง และว่าที่แชมป์พรีเมียร์ลีก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในการบุกออกไปเยือน “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัลพาเลซ อีกด้วย 

    สัปดาห์นี้ มันส์ขีดสุดกับ “ศึกศักดิ์ศรี วันแดงเดือด” และชมฟอร์มจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ถ่ายทอดสดผ่านหน้าจอฟรีทีวี ทาง พีพีทีวี เอชดี ช่อง36 (รับสัญญาณผ่านกล่องทีวีดิจิทัล หรือโทรทัศน์รุ่นใหม่ที่มีอุปกรณ์รับสัญญาณในตัวเครื่องเท่านั้น) รวมทั้งชมสดออนไลน์ได้ทาง https://www.pptvhd36.com

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.