วรชิตเผยเหตุผลเข้าอบรมโค้ชตั้งแต่อายุ 24
ในช่วงที่ไทยลีกปิดฤดูกาล วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ แข้งฝีเท้าแจ่มของ ชลบุรี เอฟซี ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ด้วยการเข้าอบรมหลักสูตรพื้นฐานการเป็นโค้ช FA Thailand Introductory Course โดยดาวเตะฉลามชล จบหลักสูตรพื้นฐานการเป็นโค้ช FA Thailand Introducory Course ในครั้งนี้ เรียบร้อยพร้อมรับมอบประกาศนียบัตรจบหลักสูตร
วรชิต เผยถึงการเข้าอบรมด้วยวัยเพียง 24 ปี ว่าที่ “ถึงแม้อายุผมแค่ 24 ปี และตอนนี้ผมยังเป็นนักฟุตบอลอยู่ แต่ผมมองว่า อนาคคตไม่มีอะไรแน่นอน และ ช่วงนี้ผมก็ว่างด้วย ผมอยากมารู้อะไรที่ไม่เคยรู้ สมัยเด็กผมอาจจะยังไม่รู้ ในศาสตร์ฟุตบอลมากพอ แต่พอมาเรียนก็ได้รู้รายละเอียดมากขึ้น”
“เพราะรายละเอียดบางอย่าง เกี่ยวกับฟุตบอล ผมอาจจะขาดความรู้ไป จึงทำให้บางอย่าง ผมก็ไม่เข้าใจ แต่พอผมได้มาอบรม และ เรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นโค้ช สิ่งนี้มันทำให้เราสามารถไปสอนน้องๆในทีมได้ และ ผมก็เอา รายละเอียดที่ผมเรียนรู้มา มาพัฒนาตัวผมเอง เพราะรายละเอียดส่วนลึกของฟุตบอลนั้น มันเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ”
สำหรับ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ มิดฟิลด์ ชลบุรี เอฟซี วัย 24 ปี เป็นเด็กอคาเดมี่ ชลบุรี รุ่นแรกอย่างเป็นทางการ ของ สโมสร และ “เจ้ายิม” ยังมีชื่ออยู่ใน 47 คน ของทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติ ไทย ที่เตรียมจะเข้าแคมป์ ในเดือน พฤษภาคม นี้ เพื่อตัดตัวให้เหลือ 23 คนสุดท้าย ก่อนเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ที่กำลังจะมาถึง
อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.