Football Sponsored

มาไกลเกินกว่าที่ฝัน “วรวุฒิ นามเวช” เปิดใจ หลังมีชื่อติดทีมชาติไทย

Football Sponsored
Football Sponsored

วรวุฒิ นามเวช กองหลังของ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี เผยว่าการติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ เป็นสิ่งที่เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้มาก แต่จะขอทำหน้าที่ให้เต็มที่เพื่อชนะใจ อากิระ นิชิโนะ ให้ได้

หลังจาก อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทย ได้ประกาศรายชื่อ 47 นักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่ เพื่อเตรียมฝึกซ้อมก่อนลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย 3 นัดสุดท้าย ในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งมีชื่อของ วรวุฒิ นามเวช กองหลังตัวเก่งของ การท่าเรือ เอฟซี ติดมาด้วย

โดย วรวุฒิ ก้าวมาเป็นนักเตะตัวหลักของ “สิงห์เจ้าท่า” ในยุคของ “โค้ชอู๊ด” สระราวุฒิ ตรีพันธ์ ได้ลงคุมแนวรับในศึกโตโยต้าไทยลีก ถึง 18 นัด ได้กล่าวว่า “มีชื่อติดมาก็ดีใจแล้วครับ ก่อนอื่นต้องขอบคุณ “คุณแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร พี่อู๊ดและเพื่อนๆ ทีมการท่าเรือ ทุกคนที่เชื่อมั่น จนได้โอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง และมีชื่อติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เป็นครั้งแรก ผมจะพยายามฝึกซ้อมให้ดีที่สุด”

“ผมยังไม่คิดถึงการมีชื่อติดไปเล่นที่ยูเออี แค่ต้องการทำผลงานให้ดีที่สุด ทำเต็มที่ทุกครั้งในสนามซ้อม หากทำได้ดีโค้ชคงเลือกเอง ไม่อยากไปกดดันตัวเอง อย่างที่บอกว่ามีชื่อติดมาก็ดีใจมากแล้ว”

“ผมไม่เคยกลัวที่จะแย่งตำแหน่งตัวจริงอยู่แล้ว เพราะผมเองก็ทำงานหนักมาโดยตลอดอยู่แล้ว สิ่งที่ผมมีชื่อติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ คงเป็นเพราะได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง และเล่นได้อย่างมั่นใจครับ”

“ผมคิดว่าตัวเองมาไกลกว่าที่ฝันไว้จริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เมื่อโอกาสมาแล้วต้องทำให้เต็มที่ครับ การปรับตัวคงไม่ยาก เพราะหลายคนเคยร่วมงานในทีมชาติไทย U23 มาแล้ว แถมมีเพื่อนร่วมทีม การท่าเรือ ติดมาหลายคนด้วย” วรวุฒิ กล่าวปิดท้าย.

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.