“เฉลิมพงษ์” แจงหลังดราม่าโพสต์ “พิสูจน์ตัวเองเพื่ออะไร” ย้ำยังสนับสนุนทีมชาติไทยเสมอ
เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ปราการหลังนครราชสีมาฯ แจงหลังเกิดดราม่าโพสต์ “พิสูจน์ตัวเองเพื่ออะไร” ซึ่งโซเชียลมีการโยงกับการประกาศรายชื่อทีมชาติไทย ล่าสุด ได้ออกมายืนยัน เคารพการตัดสินใจของทีมงาน
กรณีที่ เฉลิมพงษ์ เกิดเเก้ว กองหลังนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ออกมาโพสต์ข้อความปริศนา ว่า “พิสูจน์ตัวเองไปเพื่ออะไร” ทำให้โซเชียลเกิดความเข้าใจในโพสต์นี้ว่า เกี่ยวข้องกับการที่เฉลิมพงษ์ ไม่มีรายชื่อเป็น 47 ผู้เล่นทีมชาติไทย ลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย 3 นัดท้าย ที่ทีมชาติไทยจะไปแข่งขันที่ยูเออี
ก่อนที่เฉลิมพงษ์จะแก้ไขโพสต์เพิ่มเติมในภายหลังว่า ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องทีมชาติไทย
ล่าสุด เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ได้ออกมาชี้แจงประเด็นนี้ว่า “ผมขอชี้แจงเรื่องโพสก่อนหน้านี้นะครับ เรื่องทีมชาติผมให้เกียรติทีมงานในการเลือกตัว ซึ่งเขาก็ได้ทำงานกันอย่างหนักในการเลือกตัวผู้เล่นเข้าแคมป์ทีมชาติ และที่สำคัญก็ให้เกียรติและก็ดีใจกับเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกัน ซึ่งก็เป็นพี่เป็นน้องในวงการฟุตบอลกันทั้งนั้น วันนี้ถึงผมไม่ได้ไปทำหน้าที่ในฐานะนักฟุตบอล แต่ผมก็เป็นกองเชียร์ สนับสนุนทีมชาติไทยต่อไปครับ ขอบคุณครับ”
สำหรับเฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว สร้างผลงานลงเล่นกับนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ครบ 30 นัดในไทยลีก ด้วยเวลา 2,700 นาที ไม่เคยถูกเปลี่ยนตัวออก อีกทั้งในปีที่ผ่านมา มีชื่อในทีมชุดออลสตาร์ไทยลีก ลงอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทย โดยเขามีชื่อในทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งสุดท้าย ในศึกฟุตบอลเอเชียนคัพ 2019 ที่ยูเออี ในยุคของมิโลวาน ราเยวัช หลังจากนั้น ในยุคการคุมทีมของ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย และอากิระ นิชิโนะ เขาไม่เคยมีรายชื่อติดทีมชาติอีกเลย
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.