Football Sponsored

'เบล' ยืนยันเทิร์นโปรกอล์ฟ เตรียมโชว์วงสวิงที่อเมริกา 2-5 ก.พ.นี้

Football Sponsored
Football Sponsored

แกเร็ธ เบล อดีตนักฟุตบอลทีมชาติเวลส์ และสโมสร “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด เตรียมผันตัวมาเป็นนักกอล์ฟอย่างเป็นทางการ หลังประกาศแขวนสตั๊ดได้เพียง 2 สัปดาห์ โดยมีชื่อลงทำการแข่งขันโชว์วงสวิงในรายการ “เอทีแอนด์ที เพบเบิล บีช โปร-แอม 2023” ในระดับพีจีเอ ทัวร์

เป็นที่ทราบกันดีว่า แกเร็ธ เบล เจ้าของฉายา “พญาวานร” ชื่นชอบและหลงใหลในกีฬากอล์ฟเป็นอย่างยิ่ง เขามักมีงานอดิเรกเมื่อว่างเว้นจากการเตะฟุตบอลด้วยการไปซ้อมไดร์ฟกอล์ฟ และออกรอบอยู่เป็นประจำที่ประเทศสเปน

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา อดีตนักฟุตบอลวัย 33 ปี ออกมาโพสต์ร่ายยาวประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่าพร้อมหันไปหาความท้าทายจากสิ่งอื่นๆ ยุติเส้นทางพ่อค้าแข้งเอาไว้ที่ 17 ปีเต็ม

การแข่งขันกอล์ฟรายการ “เอทีแอนด์ที เพบเบิล บีช โปร-แอม 2023” ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับพีจีเอ ทัวร์ จะเริ่มดวลวงสวิงกันระหว่างวันที่ 2-5 กุมภาพันธ์นี้ ที่เพบเบิล บีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ชิงเงินรางวัลรวม 9 ล้านดอลลาร์ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ หรือเกือบ 300 ล้านบาท

สำหรับ แกเร็ธ เบล เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของวงการ คว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน กับ เรอัล มาดริด ถึง 3 สมัย, แชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 3 สมัย และแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ถึง 5 สมัย

นอกจากนี้ผลงานส่วนตัว เบล ยังเคยติดทีมยอดเยี่ยมของทางสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า รวมถึงพา ทีมชาติเวลส์ ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งแรกในประวัติศาสตร์รอบ 64 ปี ก่อนตัดสินใจแขวนสตั๊ดอำลาแฟนบอลทุกคน

ขณะที่ด้านผลงานตลอดการเล่นสโมสรอาชีพทุกทีม ตั้งแต่ปี 2005-2022 แกเร็ธ เบล ลงสนามไปทั้งสิ้น 553 นัด ยิง 185 ประตู ส่วนทีมชาติ ติดทีม 111 ครั้ง ยิง 41 ประตู และสโมสรสุดท้ายที่เขาร่วมงานด้วย ได้แก่ ลอสแองเจลิส เอฟซี ในเมเจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ สหรัฐอเมริกา

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.