Football Sponsored

‘นิชิโนะ’ เล็ง ‘ช้างศึก’ อุ่นเครื่อง 2 นัดก่อนคัดบอลโลก

Football Sponsored
Football Sponsored

‘นิชิโนะ’ เล็ง ‘ช้างศึก’ อุ่นเครื่อง 2 นัดก่อนคัดบอลโลก

เมื่อวันที่ 7 เมษายน ภายในห้องประชุมชั้น 2 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทย พร้อมด้วยทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย ได้ประชุมวางแผนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย 3 นัดสุดท้ายของกลุ่มจี ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้

โดยวาระการประชุมที่สำคัญได้แก่ การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือเรื่องความเป็นไปได้ในการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับนักฟุตบอลและทีมงานสต๊าฟโค้ช และโปรแกรมอุ่นเครื่องอย่างน้อย 2 นัด ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก่อนเข้าสู่ช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกรอบสองใน 3 เกมที่เหลือ

นิชิโนะกล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณนายกสมาคมฯ และแฟนบอลชาวไทยที่ร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิดในวันนี้ สำหรับการประชุมทีมงานสต๊าฟโค้ชในวันนี้ ได้มีการอัพเดทความคืบหน้าเรื่องการเตรียมทีมก่อนลงแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 3 เกมสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่ม ที่ยูเออี อาทิ การประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ หากมีความเป็นไปได้ที่นักกีฬาและสตาฟของทีมชาติได้มีโอกาสรับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อให้ทุกคนออกไปทำหน้าที่อย่างมีความสบายใจมากขึ้น

“สำหรับระยะเวลาการเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือเก็บตัวในประเทศ และเก็บตัวที่ยูเออีในเดือนพฤษภาคม เพื่ออุ่นเครื่องไม่น้อยกว่า 2 นัด ก่อนเข้าสู่ช่วงทัวร์นาเมนต์ในเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อให้ทีมชาติไทยได้มีความพร้อมมากที่สุด โดยเร็วๆ นี้จะมีการประสานไปยังสโมสรต้นสังกัดของนักกีฬา ก่อนประกาศรายชื่อ ขอให้นักกีฬารักษาสภาพร่างกายให้พร้อมต่อไป”​ นิชิโนะกล่าว

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย 3 เกมที่เหลือของทีมชาติไทย มีดังนี้

วันที่ 3 มิถุนายน 2564

– ทีมชาติไทย พบ อินโดนีเซีย

– ยูเออี พบ มาเลเซีย

วันที่ 7 มิถุนายน 2564

– อินโดนีเซีย พบ เวียดนาม

– ทีมชาติไทย พบ ยูเออี

วันที่ 11 มิถุนายน 2564

– อินโดนีเซีย พบ ยูเออี

– มาเลเซีย พบ เวียดนาม

วันที่ 15 มิถุนายน 2564

– เวียดนาม พบ ยูเออี

– มาเลเซีย พบ ทีมชาติไทย

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.