Categories: ฟุตบอลโลก

เคาท์ดาวน์มอบโชค 15 ล้าน!! ไปรษณีย์ไทย โปรยคละไปรษณียบัตรทายผลฟุตบอลโลก 2022 กว่า 44 ล้านฉบับ

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ส่งท้ายกิจกรรม “เชียร์บอลให้มัน เฮลั่นรับโชค” ชวนคนไทยร่วมนับถอยหลังลุ้นรางวัลมูลค่ารวมกว่า 15 ล้านบาท โดยได้เริ่มดำเนินการโปรยไปรษณียบัตรทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ทายว่า “อาร์เจนตินา” จะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 จำนวนกว่า 50 ล้านฉบับ เพื่อกระจายโอกาสในการเป็นผู้โชคดีให้ทั่วถึงก่อนจับรางวัลภายในปลายเดือนมกราคมนี้

นายวิชชา อ้างสกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านระบบไปรษณีย์ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยได้เริ่มโปรยไปรษณียบัตรและโปสการ์ดออนไลน์ที่ทายผลว่า “อาร์เจนตินา” จะเป็นแชมป์บอลโลก 2022 หลังจากการคัดแยกไปรษณียบัตรทายผลการแข่งขันทั้งหมด 102,142,145 ฉบับเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2565 โดยมีไปรษณียบัตรที่ทายผลถูกต้อง จำนวน 44,738,505 ฉบับ และได้ตรวจสอบความถูกต้องอย่างละเอียดแล้ว รวมทั้งส่งมอบโปสการ์ดออนไลน์ที่จัดพิมพ์ในรูปแบบไปรษณียบัตรของผู้ที่ทายทีมแชมป์ถูกต้องจากแอปฯ Prompt Post จำนวน 5,258,014 ฉบับ รวมทั้งสิ้น 49,996,519 ฉบับ และในการโปรยมีการควบคุมขั้นตอนการโปรยไปรษณียบัตรให้กระจายทั่วถึงทั้งหมด3 รอบด้วยกัน และจะนำไปรษณียบัตรที่โปรยคละกันเรียบร้อยแล้วไปเทกองรวมกันเพื่อจับรางวัลอีกครั้งซึ่งช่วยกระจายโอกาสในการมอบโชคให้ผู้ทายผลได้มากยิ่งขึ้น

ไปรษณียบัตรและโปสการ์ดออนไลน์ทายผล “อาร์เจนตินา” ที่มีเพียง 44.6% จากไปรษณียบัตรและโปสการ์ดออนไลน์ทายผลทั้งหมด ทำให้ผู้ที่ทายผลแชมป์ถูกต้องในปีนี้มีโอกาสเป็นผู้โชคดีมากขึ้น เมื่อเทียบกับ 4 ปีที่แล้ว ที่มีผู้ทายผลว่า “ฝรั่งเศส” จะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ถึง 55% จากไปรษณียบัตรทั้งหมด ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย เตรียมส่งมอบให้ไทยรัฐกรุ๊ปในวันที่ 19 มกราคม 2566 พร้อมจับผู้โชคดีลุ้นรางวัลมูลค่ารวมกว่า 15 ล้านบาทภายในเดือนมกราคม 2566 ติดตามการประกาศผู้โชคดีได้ที่ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ www.thailandpost.co.th และ www.thairath.co.th

ติดตามข่าวสารไปรษณีย์ไทยเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : www.thailandpost.co.th
เฟซบุ๊ก : บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
ทวิตเตอร์ : @Thailand_Post
ไลน์ออฟฟิเชียล : @Thailand Post
ติ๊กต็อก : @thailandpostchannel

Tags: footballกีฬาถ่ายทอดผลการแข่งขันฟุตบอลฟุตบอลโลกสดแข่งขัน

2 ปี ago

ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง