Football Sponsored

“ทีมชาติไทย” แรงปลาย อัด “กัมพูชา” ในบ้าน 3-1 คว้าแชมป์กลุ่ม A ลิ่วรอบรอง อาเซียนคัพ

Football Sponsored
Football Sponsored

วันที่ 2 มกราคม 2566 ทีมชาติไทย ลงสนามพบ ทีมชาติกัมพูชา ในศึกอาเซียนคัพ 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดส่งท้าย โดยสถานการณ์ก่อนหน้านี้หลังผ่านมา 3 นัด “ช้างศึก” มี 7 คะแนน จาก 3 นัด รั้งจ่าฝูง ขณะที่ “อังกอร์” มี 6 คะแนน รั้งอันดับ 3 หากเกมนี้ ทีมชาติไทย คว้าชัยชนะ หรือเสมอได้ จะเข้ารอบรองชนะเลิศแบบไม่ต้องลุ้นผลคู่อื่นทันที

เกมนี้ มาโน โพลกิง กุนซือทีมชาติไทย ไม่โรเตชันนักเตะเท่าไร เพราะเปลี่ยนแค่ 1 ตำแหน่ง เอา อดิศักดิ์ ไกรษร ลงเล่นแทน ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ที่เหลือนำโดย ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีม และ ธีรศิลป์ แดงดา ที่ซัดไปแล้ว 3 ประตู จาก 3 นัด ลงเล่น 

ส่วน ริว ฮิโรเซะ กุนซือทีมชาติกัมพูชา ส่ง ออน จันโพลิน กัปตันทีมประจำการเกมรับ โดยมีกองหน้าอย่าง เซียง ชานเตีย และ ยือ มุสลิ ล่าตาข่าย

นาทีที่ 6 “ช้างศึก” ทักทายก่อน ธีรศิลป์ รับบอลในกรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายบอลกลับมาให้ สารัช ได้ยิง แต่บอลบดออกหลังไป

นาทีที่ 30 ธีรศิลป์ จ่ายให้ อดิศักดิ์ ได้ซัดด้วยซ้ายบริเวณเส้นกรอบเขตโทษ แต่ยังติดแนวรับ กัมพูชา

นาทีที่ 36 ลิม พิโสธ กระชากหนีแนวรับ “ช้างศึก” ก่อนยิงมุมแคบ แต่ กิตติพงษ์ ยังปัดออกหลังไปได้

นาทีที่ 45 ศศลักษณ์ โดน ยือ มุสลิ เข้าสกัดล้มลงในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ ธีรศิลป์ แดงดา รับหน้าที่สังหารเข้าไป และเป็นประตูที่ 4 ของเจ้าตัวในรายการนี้ “ช้างศึก” นำ 1-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

นาทีที่ 50 สารัช จ่ายเข้าช่องให้ สุมัญญา ปุริสาย แต่งบอล 1 จังหวะ แล้วจิ้มเข้าไป ทีมชาติไทย หนีห่าง 2-0

นาทีที่ 68 เซียง ชานเตีย ล็อกหนีแนวรับ “ช้างศึก” ก่อนยิงนิ่มๆ เข้าไป กัมพูชา ไล่มาเป็น 1-2

นาทีที่ 90 ธีรศิลป์ ได้บอลก่อนยิงเสียบเสาไกลสุดสวย ให้ ไทย หนีห่างเป็น 3-1

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม ทีมชาติไทย ชนะ ทีมชาติกัมพูชา 3-1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ในฐานะแชมป์กลุ่มเอ โดยจะไปรอพบ รองแชมป์ กลุ่มบี วันที่ 7 มกราคมนี้ (เยือน)

ทีมชาติไทย (4-4-2 ): กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก, ศุภนันท์ บุรีรัตน์, พรรษา เหมวิบูลย์, กฤษดา กาแมน, ศศลักษณ์ ไหประโคน, เอกนิษฐ์ ปัญญา, ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น, บดินทร์ ผาลา, อดิศักดิ์ ไกรษร, ธีรศิลป์ แดงดา

ทีมชาติกัมพูชา (3-4-3): แก้ว สกเสลา (GK), เสือย วิสาล, เทส สัมบัต, ชอน ชานเชฟ, ออน จันโพลิน, เสือธ บาเรียง, โสส สุฮะนา, ยือ มุสลิ, เรือง บุนเหียง, เซียง ชานเตีย, ลิม พิโสธ

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.