Football Sponsored

นี่คือสิ่งสำคัญ “เมสซี” อวยพรปีใหม่-ชู 2 เบื้องหลังช่วยคว้าแชมป์ “ฟุตบอลโลก 2022”

Football Sponsored
Football Sponsored

วันที่ 1 มกราคม 2566 ลิโอเนล เมสซี ยอดดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินา จากสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่ลีกเอิง ฝรั่งเศส โพสต์โซเชียลมีเดียส่วนตัว เพื่อขอบคุณแฟนๆ ที่คอยติดตามและให้กำลังใจมาตลอด จนสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 เป้าหมายสูงสุดในชีวิตได้สำเร็จตามที่ตั้งใจ รวมถึงอวยพรปีใหม่ 2023 ด้วย

เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของศึกฟุตบอลโลก 2 สมัยคนแรกของโลก พูดถึง 2 เบื้องหลังที่ช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายในปี 2022 ว่า “หนึ่งปีที่ผ่านไปจะเป็นปีที่ผมจะไม่มีวันลืม ความฝันที่ผมไขว่คว้ามาตลอดในที่สุดก็เป็นจริง แต่นั่นก็คงไม่มีค่าอะไรเช่นกัน ถ้าผมไม่ได้แบ่งปันความฝันนั้นกับครอบครัวที่ยอดเยี่ยม ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะมีได้ และเพื่อนๆ มากมายที่สนับสนุนผมมาโดยตลอด และไม่ปล่อยให้ผมต้องอยู่เพียงลำพังในทุกๆ ครั้งที่ผมล้มลง”

“ผมยังอยากให้มีความทรงจำที่พิเศษมากมายสำหรับทุกคนที่ติดตามและสนับสนุนผม มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ได้แบ่งปันเส้นทางนี้กับพวกคุณทุกคน มันคงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาถึงจุดนี้ได้หากปราศจากกำลังใจมากมายที่ผมได้รับจากทุกคน ทั้งในประเทศของผม รวมทั้งจาก ปารีส, บาร์เซโลนา และจากเมืองอื่นๆ รวมถึงประเทศอื่นๆ อีกมากมายที่ผมได้รับความรัก”

“ผมหวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคน และขอให้พวกคุณมีสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขต่อไปในปี 2023 กอดๆ นะทุกคน” เมสซี อวยพรปีใหม่ทิ้งท้าย

ทั้งนี้ เมสซี วัย 35 ปี ได้รับอนุญาตจาก เปแอสเช ให้หยุดพักผ่อนที่บ้านเกิดเป็นเวลา 14 วัน หลังจากประสบความสำเร็จสูงสุด พาทีมชาติอาร์เจนตินา คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 3 ต่อจากปี 1978 และ 1986 มาครองได้สำเร็จ ซึ่งตอนนี้อดีตดาวเตะบาร์เซโลนากำลังใช้เวลาอยู่กับครอบครัว หลังจากร่วมเฉลิมฉลองกับแฟนบอล “ฟ้าขาว” ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ด้าน คริสตอฟ กัลทิเยร์ กุนซือเปแอสเช เปิดเผยว่า สโมสรได้ให้ เมสซี หยุดจนถึงวันที่ 1 มกราคม และจะกลับมายัง เปแอสเช ในวันที่ 2 หรือ 3 มกราคม ซึ่งก็จะพลาดเกมลีกเอิงที่ไปเยือน ล็องส์ คืนนี้ คาดว่าจะคัมแบ็กช่วยทีมได้อย่างเร็วที่สุดในศึกเฟรนช์ คัพ รอบ 64 ทีม กลุ่มดี ที่ไปเยือน ชาโตรูซ์ ทีมจากดิวิชั่น 3 ฝรั่งเศส วันที่ 6 มกราคม.

*ขอบคุณภาพจาก Instagram : leomessi

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.