Football Sponsored

ย้อนความทรงจำรวม 10 ข่าวดังลูกหนังโลกรอบปี 2022 – บทความฟุตบอลต่างประเทศ

Football Sponsored
Football Sponsored

ลิโอเนล เมสซี่ นำทัพ ฟ้าขาว ซิวบอลโลกหนสาม ด้าน เบนเซม่า คว้า บัลลง ดอร์ ครั้งแรก ขณะที่ โรนัลโด้ ยอมแตกหัก แมนฯยู ยกเลิกสัญญา และ เปเล่ ตำนานสิ้นลมด้วยโรคมะเร็ง ใน 10 ข่าวเด่นบอลต่างประเทศปี 2022

ฟุตบอลลีกต่างประเทศตลอดปี 2022 คอบอลนอกติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะทัวร์นาเม้นต์สำคัญๆ ต่างเฝ้าจดจ่อรอดูความเคลื่อนไหว รวมทั้ง เอาใจช่วยผลงานสโมสรและแข้งขวัญใจที่ตัวเองชื่นชอบ มีหลายเหตุการณ์ที่สร้างความสุข ชุ่มชื่นหัวใจ แต่บางเหตุการณ์สร้างความผิดหวัง เกลียดชัง  และบางเหตุการณ์ก็กลายเป็นเรื่องเศร้า สูญเสีย ทีมงานของเอสเอ็มเอ็มสปอร์ต ขอย้อนกลับไปยังเรื่องราวที่กลายเป็นอดีตไปอีกปี เชื่อว่า คงจะอยู่ในความทรงจำของหลายคนไม่มากก็น้อย ไปดูกันดีกว่ามีเรื่องอะไรกันบ้างครับ

1. ‘ฟ้าขาว’ ประเดิมพ่ายแต่จบสวยซิวบอลโลกหนสาม
ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ อาร์เจนติน่า กลายเป็นชาติที่ประสบความสำเร็จมากสุดในทัวร์นาเม้นต์นี้ แม้จะเริ่มต้นได้ไม่ดีด้วยการพ่าย ซาอุดิอาระเบีย 1-2 แบบช็อคโลก แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็เร่งเครื่องเอาชนะคู่แข่งกรุยทางจนคว้าแชมป์โลกมาครองเป็นสมัยที่สามต่อจากปี 1978 และ 1986 ยุติการรอคอยนาน 36 ปี โดยในรอบชิงชนะเลิศ พวกเขาเอาชนะ ฝรั่งเศส แชมป์เก่า ด้วยการดวลจุดโทษ 4-2 หลังจากเสมอในเวลา 120 นาที 3-3 ซึ่งความสำเร็จของทีม ฟ้าขาว ทำให้ได้แชมป์เวิลด์คัพ เหนือ น้ำหอม และ อุรุกวัย ที่ได้ แชมป์โลก สองสมัย แต่ยังเป็นรอง อิตาลี และ เยอรมัน ที่ได้ แชมป์โลก สี่สมัย รวมถึง บราซิล ที่ได้ แชมป์โลก มากที่สุดห้าสมัย 

2. ‘เมสซี่’ ปิดฉากบอลโลกหรูพร้อมสร้างตำนานบทใหม่  
แข้งแห่งยุคสำหรับปี 2022 จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้ากัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับตัวเองหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกกับทัพบ้านเกิด และดูเหมือนจะเป็นการปิดฉากลงเล่นรายการนี้อย่างสวยงามหลังเจ้าตัวออกมาประกาศก่อนหน้านี้ ขณะที่ผลงานที่โดดเด่นตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ซัดไป 7 ประตู ทำให้คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลโลก หรือ โกลเด้น บอล สมัยที่สองต่อจาก ปี 2014 ซึ่งถือเป็นคนแรกที่ทำได้ ไม่เพียงเท่านั้น การได้ลงเล่นในรอบไฟน่อล ยังกลายเป็นนัดที่ 26 ของเขา ซึ่งถือว่ามากสุดแซงหน้า โลธาร์ มัทเธอุส อดีตตำนานทีมชาติเยอรมัน ที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ที่ 25 นัดด้วย

3. ‘เบนเซม่า’ ผงาดซิวรางวัล ‘บัลลงดอร์’ 2022 ตามคาด
คาริม เบนเซม่า ดาวยิง เรอัล มาดริด สร้างเกียรติประวัติให้กับตัวเอง ด้วยการคว้ารางวัล บัลลง ดอร์ ของนิตยสาร ฟร้องซ์ ฟุตบอล ประจำปี 2022 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในชีวิตการค้าแข้ง ภายหลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดฤดูกาล 2021-2022 ด้วยการทำไป 44 ประตูจาก 46 นัด พาทีม ราชันชุดขาว คว้าแชมป์ ลาลีกา สเปน และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ขณะเดียวกัน ก็ยังพาทีมชาติ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ซีซั่น 2020-2021 มาครองได้อีกด้วย โดยถือเป็นนักเตะชาวน้ำหอมรายที่ 5 ต่อจาก ซีเนดีน ซีดาน, ฌอง-ปิแอร์ ปาแป็ง, เรย์มงด์ โกปา และ มิเชล พลาตินี่ ที่คว้ารางวัลนี้ แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ประกาศอำลาทีมชาติไป หลังจากมีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้าย จนชวดช่วยทีมที่คว้ารองแชมป์โลกมาครอง

4. จบไม่สวย ‘โรนัลโด้’ แตกหัก ‘ปีศาจแดง’ จนต้องแยกทาง
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์โปรตุกีส สร้างประเด็นร้อนในวงการลูกหนังโลก เมื่อให้สัมภาษณ์กับ เพียร์ส มอร์แกน พิธีกรชื่อดัง โจมตี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เอริก เทน ฮาก นายใหญ่ชาวดัตช์อย่างรุนแรง จนสุดท้าย เร้ด เดวิลส์ ต้องประกาศยกเลิกสัญญาด้วยความยินยอมพร้อมใจทั้งสองฝ่ายเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้เขากลายเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์สมความตั้งใจ ก่อนย้ายไปยัง อัล-นาสเซอร์ ทีมในลีกซาอุดิอาระเบีย ไม่เพียงแต่ในระดับสโมสรเท่านั้น ในระดับทีมชาติก็ยังมีปัญหาขัดแย้งกับ แฟร์นานโด ซานโต๊ส กุนซือวัย 68 ปี จนต้องโดนดร็อปนั่งสำรอง แต่ ฝอยทอง ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันเมื่อต้องตกรอบ 8 ทีมฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ 

5. อนาคตดับวูบ ‘กรีนวู้ด’ โดนอดีตแฟนแจ้งจับข้อหาข่มขืน
เมสัน กรีนวู้ด กองหน้าวัย 21 ปีของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่รู้อนาคตว่า จะได้กลับมาอยู่ในเส้นทางการค้าแข้งเมื่อไหร่ เมื่อเจ้าตัวโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวที่บ้านเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2022 หลังถูกอดีตแฟนสาวแจ้งความว่า พยายามข่มขืนเธอ ตลอดจนกักขังหน่วงเหนี่ยว และทำร้ายร่างกาย ที่ผ่านมาพ่อค้าแข้งดาวรุ่งพยายามติดต่อไปหาโจทก์ ซึ่งถือเป็นการละเมิดเงื่อนไขการประกันตัว ทำให้ถูกจับกุมอีกครั้งแต่ก็ได้ไฟเขียวให้ประกันตัวภายใต้เงื่อนไขเดิม โดยการไต่สวนคดีจะมีขึ้นในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2023 ซึ่งเหลือเวลาอีกนาน ทำให้เขาจะไม่ได้ลงสนามให้กับ ปีศาจแดง ที่สั่งแบนไปอีกอย่างน้อยเกือบ 1 ปี เท่ากับเป็นการหยุดพัฒนาฝีเท้าตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง

6. ‘เปแอสเช’ ทุ่มค่าเหนื่อยแพงสุด ‘เอ็มบั๊ปเป้’ ต่อสัญญา 3 ปี
ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ประสบความสำเร็จในการจับ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กองหน้าทีมชาติ ฝรั่งเศส ขยายสัญญาออกไปอีก 3 ปี ทั้งที่ตอนแรกกระแสข่าวเทไปในทิศทางเดียวกันว่า เจ้าตัวจะย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ในลีกสเปน อย่างไรก็ตาม ก็ต้องแลกมากับการที่ทีมดังจาก ลีกเอิง ต้องจ่ายเงินก้อนโตให้กับ ดาวยิงวัย 23 ปี ส่งผลให้เขากลายเป็นนักเตะที่รับค่าเหนื่อยมากสุดต่อสัปดาห์เป็นอันดับ 1 ของโลก หลังจากรวมโบนัสก้อนโตเบ็ดเสร็จแล้ว ด้วยตัวเลขสูงถึง 1,600,000 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 67 ล้านบาท เลยทีเดียว ตามมาด้วย ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าเพื่อนร่วมสโมสรที่ได้ราว 960,000 ล้านปอนด์ หรือ ประมาณ 41 ล้านบาทต่อวีค

7. ‘หมีขาว’ โดนคว่ำบาตรบอลโลกเหตุจุดชนวนสงคราม
ผลพวงจากการที่ชาติ รัสเซีย บุกรุกดินแดนของ ยูเครน ส่งผลให้ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า และ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า แสดงความไม่เห็นด้วย พร้อมกับสั่งระงับพวกเขาออกจากการแข่งขันของรายการที่ทั้งสององค์กรเป็นฝ่ายดูแล ไม่ว่าจะเป็นระดับทีมชาติ อย่าง ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ หรือ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2014 ที่ประเทศเยอรมัน เช่นเดียวกับ ระดับสโมสร อย่างฟุตบอลถ้วย ยูโรปา ลีก ที่ผ่านมา สปาร์ตัก มอสโก ก็หมดสิทธิ์ลงแข่ง จนถึงขั้นมีรายงานว่า หมีขาว กำลังหาหนทางย้ายมาเล่นในลีกเอเชีย เหมือนกับที่ ออสเตรเลีย ทำเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังไม่ได้รับตอบจากสหพันธ์ฟุตบอลเอเชียหรือ เอเอฟซี

8. ‘เชลซี’ สิ้นสุดยุครุ่งโรจน์ ‘เสี่ยหมี’ ส่งงานต่อยังกลุ่มทุนลุงแซม 
โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ถูกกดดันให้ต้องประกาศขายทีม จากปัญหาการทำสงครามกับ ยูเครน สืบเนื่องมาจากความเกี่ยวพันระหว่างตัวเขากับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีหมีขาว และ ทอดด์ โบลีห์ นักลงทุนชาวเมืองแยงกี้ได้ครอบครอง สิงห์บลูส์ ในเวลาต่อมา ถือเป็นการยุติช่วงเวลาที่เขาพาทีมประสบความเร็จนับตั้งแต่เข้ามาบริหารงานเมื่อปี 2003 จนถึงปี 2022 โดย เชลซี คว้าแชมป์ภายใต้การทุ่มงบประมาณมหาศาลได้มากถึง 23 รายการ ซึ่งรายการใหญ่ประกอบไปด้วย ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และ ยูโรปา ลีก รายการละ 2 สมัย รวมถึงแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ อีกอย่างละ 5 สมัย ขณะที่อีกสองสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็อยู่ระหว่างการหาเจ้าของใหม่เช่นกัน

9. ‘หงส์แดง’ จาก 4 แชมป์เหลือ 2 กระทบชิ่งฟอร์มซีซั่นใหม่  
ลิเวอร์พูล สร้างความหวังให้เหล่า เดอะ ค็อป ที่ประเทศไทยและทั่วโลก เมื่อมีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ทั้ง 4 รายการหลัก แต่ลงเอยด้วยการได้มา 2 ถ้วย คือ เอฟเอ คัพ  และ คาราบาว คัพ จากการเอาชนะจุดโทษ เชลซี ที่ทะลุเข้ารอบชิงมาได้ทั้งสองรายการ เท่ากับเป็นการย้ำแค้น สิงโตน้ำเงินคราม แต่ทว่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พวกเขาจบเพียงแค่รองแชมป์ด้วยการแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียง 1 คะแนน ขณะที่ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ก็แพ้ เรอัล มาดริด แบบหวุดหวิด 0-1 ในรอบชิงชนะเลิศ ส่งผลให้ หงส์แดง ต้องฝันสลาย ไม่เพียงเท่านั้น ผลกระทบจากการลงเตะทุกถ้วย ทำให้ ซีซั่น 2022-2023 พวกเขามีนักเตะบาดเจ็บหลายรายและกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ เรด แมชชีน หมดลุ้นแชมป์ลีกไปเป็นที่เรียบร้อย 

10. ‘เปเล่’ ตำนานแข้งบราซิลเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้ 
ปิดท้ายปี 2022 วงการลูกหนังโลกต้องพบกับข่าวเศร้า เมื่อ เปเล่ ตำนานนักฟุตบอลชาวบราซิเลี่ยน เจ้าของสถิติคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 3 สมัยกับทีมชาติบราซิล เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 82 ปี หลังจากต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มาตั้งแต่ปลายปีก่อน และกลับเข้ามารักษาที่โรงพยาบาล อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในนครเซาเปาโล อีกครั้งตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน จนอาการทรุดลงและสิ้นลมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2022  โดยเจ้าของฉายา ไข่มุกดำ หรือชื่อเต็มว่า เอ็ดสัน อารันเตส โด นาสซิเมนโต้ โด่งดังไปทั่วโลกด้วยวัยเพียง 17 ปีในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1958 โดยช่วยให้บ้านเกิดคว้าแชมป์โลกเป็นครั้งแรก จากนั้นก็ยังมาได้อีกในปี 1962 และ 1970 ซึ่งเป็นนักเตะคนเดียวที่ทำได้ นอกจากนี้ เขายังครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของชาติ 77 ประตู ร่วมกับ เนย์มาร์ ดาวยิงทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และถูกบันทึกจากกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นนักฟุตบอลที่ทำประตูได้มากสุดตลอดกาลที่ 1,279 ประตู จาก 1,363 นัด ตลอดชีวิตค้าแข้งซึ่งรวมถึงเกมอุ่นเครื่องด้วย

ที่มาของภาพ: gettyimages.com

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.