Football Sponsored

เอานะ! ดาลิช ลั่นพา โครเอเชีย โค่น โมร็อกโก ซิวอันดับสามบอลโลก

Football Sponsored
Football Sponsored

ย้อนรอยปี 1998… ซลัตโก้ ดาลิช กุนซือทีมชาติโครเอเชีย ระบุชัด “ตาหมากรุก” ต้องการปิดฉากศึกฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการคว้าอันดับสาม แต่แย้มเกมกับ โมร็อกโก วันเสาร์นี้ อาจพักแข้งตัวหลักบางราย

ซลัตโก้ ดาลิช เฮดโค้ชทีมชาติโครเอเชีย ยืนยันว่า ตนคาดหวังที่จะพาทีมคว้าชัยชนะในเกมชิงอันดับสาม ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ทัพ “ตาหมากรุก” มีคิวดวลกับ โมร็อกโก วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคมนี้ 

โครเอเชีย ซึ่งเป็นรองแชมป์ครั้งก่อน (2018) เคยได้อันดับสามบอลโลกมาแล้วเมื่อปี 1998 (ชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-1) ซึ่ง ดาลิช มองว่า หากทำได้อีกครั้งในเกมวันเสาร์นี้ จะถือเป็นความสำเร็จอย่างมากสำหรับประเทศเล็กๆ อย่าง โครเอเชีย 

“ในปี 1998 ถือเป็นเหรียญรางวัลแรกที่เราได้ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จที่ใหญ่มากๆ มันเป็นที่ยอมรับเมื่อพิจารณาถึงการที่เราเป็นชาติที่เพิ่งได้รับอิสรภาพ (แยกประเทศจาก ยูโกสลาเวีย ในปี 1991) มันเป็นจุดเริ่มต้นความรุ่งเรืองในวงการฟุตบอลของเรา”

“สำหรับครั้งนี้มันเป็นอะไรที่แตกต่างออกไป เพราะเหรียญเงินเราก็ได้มาแล้ว (อันดับสองบอลโลกครั้งก่อน) แต่ เวิลด์ คัพ ครั้งนี้มีความหมายมากๆ เราอยากทำให้ทุกคนในประเทศภาคภูมิใจ”

“ในปี 1998 มันมีความสำคัญมากกว่า เพราะนั่นคือ เวิลด์ คัพ ครั้งแรกของเรา แต่พระเจ้าอยากให้เราทำได้อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ และผมเองก็หวังที่จะทำได้เช่นกัน เหมือนกับที่เราประสบความสำเร็จใน เวิลด์ คัพ เมื่อสี่ปีก่อน เราเป็นประเทศเล็กๆ แต่ก็ประสบความสำเร็จเยอะมาก” กุนซือเลือดโครแอตวัย 56 ปี กล่าว

อย่างไรก็ตาม ดาลิช แย้มว่า ตนอาจจะเลือกพักแข้งตัวหลักอย่าง โยซิป ยูราโนวิช, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล และ มาร์เซโล่ โบรโซวิช “นี่คือเกมนัดที่เจ็ด ภายในระยะเวลาไม่ถึงเดือน แน่นอนว่า เรามีอาการล้า และผู้เล่นอย่าง กวาร์ดิโอล, ยูราโนวิช, โบรโซวิช ก็มีอาการบาดเจ็บด้วย ยังไงก็รอดูกันต่อไป เพราะหลายสิ่งหลายอย่างสามารกเกิดขึ้นได้ เราจำเป็นต้องระมัดระวัง”

ที่มาของภาพ : gettyimages.ae

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.