Football Sponsored

เพื่อทีม!ซานโตสอธิบายโรนัลโด้ไม่ส่งลงตัวจริงเกมดวลสวิสฯ

Football Sponsored
Football Sponsored

แฟร์นานโด ซานโตส บอกเอง ก่อนเกมกับ สวิตเซอร์แลนด์ ตนพูดกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปตรงๆ เลยว่ามันจะเป็นเรื่องดีต่อแผนของทีมมากกว่าหากเขาไม่ได้เป็นตัวจริง พร้อมเผยว่า โรนัลโด้ ไม่พอใจกับเรื่องนั้น แต่เสริมว่าแข้งคนดังก็ยังแสดงให้เห็นถึงสปิริตที่ดีในวันที่มีการแข่งขันเหมือนกัน

แฟร์นานโด ซานโตส เทรนเนอร์ทีมชาติโปรตุเกส เปิดเผยว่าตนพูดกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปตามตรงว่ามันจะเป็นการดีกับทีมมากกว่าหาก โรนัลโด้ ไม่เป็นตัวจริง ในวันที่พวกเขาชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 6-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึก ฟุตบอลโลก 2022

โรนัลโด้ ฟอร์มตกทั้งในระดับสโมสรกับทีมชาติมาพักหนึ่งแล้ว โดยมันถึงขั้นที่มีแฟนบอลโปรตุเกสหลายคนเรียกร้องให้เขาโดนดร็อปด้วย ซึ่งในเกมกับ สวิตเซอร์แลนด์ ดาวเตะวัย 37 ปีก็ต้องออกสตาร์ตด้วยการเป็นตัวสำรองจนกลายเป็นที่ฮือฮาในระดับหนึ่ง

ซานโตส กล่าวว่า “ผมได้คุยกับ คริสเตียโน่ มันคงจะเป็นเรื่องแย่หากผมไม่ได้คุยกับเขาก่อน พอผมเข้ามาคุมทีมชาติน่ะเราก็จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์กับนักเตะที่ดีขึ้น นั่นเป็นแนวทางของผม ผมต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขา ดังนั้นมันเลยจำเป็นต้องมีการคุยกัน ที่จริงผมไม่ได้ทำแบบนั้นกับนักเตะทุกคนหรอกนะ แต่เขาเป็นกัปตันทีมของเรา”

“ด้วยความที่เขาเป็นตัวแทนของวงการฟุตบอลโปรตุเกส, ของคนโปรตุกีสและของทีมชาติแล้วน่ะ มันเลยเป็นเรื่องธรรมดาที่ผมต้องคุยกับเขา ผมคุยกับเขาในช่วงมื้อเที่ยงของวันที่เราต้องลงเตะ มันเกิดขึ้นก่อนที่เราจะเจอกับ สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งที่จริงก่อนหน้านี้ผมไม่เคยต้องมาคุยอะไรแบบนี้เลย”

“ผมอธิบายให้เขาฟังว่าทำไมเขาถึงจะไม่ได้เป็นตัวจริง ผมทำอย่างนั้นเพื่อที่เขาจะได้ไม่แปลกใจ (เมื่อถึงตอนประกาศรายชื่อ) ผมชวนเขาไปที่ออฟฟิศของผมแล้วบอกกับเขาไปว่า -มันจะเป็นเรื่องดีต่อแผนของเรามากกว่านะถ้านายไม่ได้ลงเล่น (เป็นตัวจริง)- ผมบอกกับเขาไปว่าผมจะเก็บเขาไว้ใช้งานในครึ่งหลัง ซึ่ง คริสเตียโน่ ไม่พอใจกับเรื่องนั้นมากๆ เขาเป็นหนึ่งในตัวจริงมาโดยตลอด”

“เขาถามผมเลยว่า -คุณคิดว่ามันเป็นไอเดียที่ดีจริงๆ งั้นเหรอ ?- เราทำการคุยกันโดยที่ผมก็ได้อธิบายมุมมองของผมไป เขาไม่เคยบอกผมว่าเขาอยากออกจากทีมชาติน่ะนะ ดังนั้นมันก็ถึงเวลาที่เราควรจะต้องเลิกคุยถึงเรื่องนี้ได้แล้ว คุณเองก็คงจะเห็นถึงเรื่องที่ผมพูดผ่านทางสิ่งที่เขาทำในวันที่มีการแข่งขันแล้ว เขาอบอุ่นร่างกายร่วมกับนักเตะคนอื่นๆ ทั้งที่เขารู้ว่าจะไม่ได้เป็นตัวจริง แถมยังฉลองประตูที่เราทำได้อีก ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นหนึ่งในคนที่ชวนให้เพื่อนร่วมทีมของเขาไปขอบคุณแฟนบอลเช่นกัน”

ที่มาของภาพ : gettyimages

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.