Football Sponsored

‘กระทิง’ ดุของจริง! ถล่ม ‘คอสตาริกา’ ยับเยิน 7-0 ศึกฟุตบอลโลก

Football Sponsored
Football Sponsored

‘กระทิง’ ดุของจริง! ถล่ม ‘คอสตาริกา’ ยับเยิน 7-0 ศึกฟุตบอลโลก

“กระทิงดุ” สเปน ถล่มเอาชนะ คอสตาริกา 7-0 ในการแข่งขันฟุตบอลโลก “ฟีฟ่า เวิลด์คัพ 2022” รอบแรก กลุ่มอี ที่อัล ธุมามา สเตเดียม เมื่อคืนวันที่ 23 พฤศจิกายน

เกมนี้หลุยส์ เอ็นริเก้ เฮดโค้ชสเปนจัดทัพแบบเซอร์ไพรส์เล็กน้อย โดยในแนวรุกส่ง มาร์โก้ อเซนซิโอ้ ลงมาเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าพร้อมด้วย ดานี่ โอลโม่ และ เฟร์ราน ตอร์เรส คอยสนับสนุน ส่วนแดนกลางใช้ 3 ประสานบาร์เซโลน่าอย่าง เปดรี้, เซร์คิโอ้ บุสเก็ตส์, กาบี้ ขณะทีแนวรับถอยโรดรี้ ลงไปยืนเซนเตอร์คู่กับอายเมอริค ลาปอร์ แล้วใช้เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ยืนแบ๊กขวา ฆอร์ดี้ อัลบ้า แบ๊กซ้าย โดยมีอูไน ซิมง เป็นผู้รักษาประตู

ส่วนคอสตาริกามาในระบบ 4-4-2 นำโดย เคยเลอร์ นาวาส เป็นผู้รักษาประตู แนวรับจากขวาไปซ้าย คาร์ลอส มาร์ติเนซ, ฟรานซิสโก้ คาลโว่, ออสก้าร์ ดูอาร์เต, ไบรอัน โอเวียโด้ แดนกลางมี เคย์เชอร์ ฟุลเลอร์, เซลโซ่ บอร์เกส, เยลต์ซิน เทเฮด้า และ เจวิสัน เบนเน็ตต์ โดยมี โจเอล แคมป์เบลล์ กับ แอนโธนี่ คอนเตรราส เป็นกองหน้าคู่

เปิดฉากมาสเปนบุกหนักทันทีแล้วมาได้ประตูอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 11 จากจังหวะที่ ดานี่ โอลโม่ ทำชิ่งกับ กาบี้ ก่อนจะหลุดเข้าไปยิงผ่านตัวนาวาสเข้าประตูไปให้สเปนออกนำ 1-0

จากนั้นในนาทีที่ 20 สเปนได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่อัลบ้า เปิดทางด้านซ้ายให้กับ อเซนซิโอ้ ที่รออยู่ในเขตโทษตวัดทีเดียวเข้าประตูไปเลย

ในนาทีที่ 29 สเปนมาได้จุดโทษ และเป็นตอร์เรสรับหน้าที่สังหารไม่พลาดเข้าประตูไป ให้สเปนนำโด่งเป็น 3-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังเริ่มมาได้ 9 นาที สเปนมาทำประตูเพิ่มได้อีกจากจังหวะที่แนวรับของคอสตาริกาเคลียร์บอลไม่ขาด แล้วเป็นตอร์เรสที่พลิกตัวมายิงเข้าประตูไป ให้สเปนนำ 4-0 ก่อนจะถอดตัวหลักทั้งตอร์เรส กับเปดรี้ ออกทันที แล้วส่งอัลบาโร่​ โมราต้า กับ คาร์ลอส ซอแลร์ ลงมาเล่นแทน

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 75 สเปนได้ประตูที่ 5 จากการยิงบริเวรณกรอบเขตโทษของกาบี้ จากนั้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ สเปนมาได้อีก 2 ประตูปิดท้ายจากซอแลร์ และโมราต้า

จบเกม สเปน ถล่มเอาชนะ คอสตาริกา ไปได้ 7-0 ประเดิมนัดแรกด้วยชัยชนะได้สำเร็จ

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.