เปิดชื่อ 3 บริษัทเอกชนตอบรับหนุนลิขสิทธิ์บอลโลก2022
ตามที่การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ส่งเอกสารขอรับการสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ไปยังบริษัทเอกชน หลังได้รับอนุมัติจากกสทช.มาเป็นจำนวนเงิน 600 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 1,600 ล้านบาทที่ได้ยื่นขอไปนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับรายงานข่าว งบประมาณจากภาคเอกชนที่เปิดเจรจาขอรับการสนับสนุนไปนั้น ตอนนี้มีตอบรับปากเปล่ามาแล้ว 3 บริษัทเอกชน ประกอบด้วย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน), บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยจะให้เงินราว 400 ล้านบาท หรืออาจดันตัวเลขไปได้ถึง 500 ล้านบาท เมื่อรวมกับงบประมาณที่ได้รับจาก กสทช.จะมีเงินอยู่ในมือในการเจรจากับทางฟีฟ่าประมาณ 1,000-1,100 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังไม่เพียงพออยู่ดี นอกจากนี้ ยังรอคำตอบอีก 2 บริษัท คือ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จํากัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.)
ขณะที่ บริษัท อินฟรอนท์ฯ ยืนยันตัวเลขขอลดราคารอบสองไว้ที่ราคา 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณกว่า 1,100 ล้านบาท ยังขาดอยู่อีกราว 100 ล้านบาท ไม่รวมค่าภาษี หรือค่าบริหารจัดการอื่นๆ โดย ณ เวลานี้ ประเทศไทยมีทางเลือก 2 ทาง คือ 1.ยอมจ่ายลิขสิทธิ์เต็มจำนวน 1,600 ล้านบาท ในกรณีที่เอเยนต์ฟีฟ่าไม่ยอมลดราคา และ 2.ประเทศไทยไม่ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022
ที่มาของภาพ : –
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.