Football Sponsored

'อังกฤษ' ประกาศรายชื่อ 26 แข้ง ลุยศึก 'ฟุตบอลโลก 2022'

Football Sponsored
Football Sponsored

แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือของทีมชาติอังกฤษ ประกาศรายชื่อ 26 นักเตะ ชุดทำศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน – 18 ธันวาคมนี้ ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในครั้งนี้ เซาธ์เกต เรียก มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาติดทัพ “สิงโตคำราม” อีกครั้ง หลังกลับมาทำผลงานได้ดีในซีซั่นนี้ เช่นเดียวกับ เบน ไวท์ กองหลัง อาร์เซน่อล และ เจมส์ แมดดิสัน กองกลาง เลสเตอร์ ซิตี้ รวมไปถึง คัลลัม วิลสัน ดาวยิง นิวคาสเซิ่ล ที่หวนมีชื่อติดธงเช่นกัน

ขณะที่ ไคล์ วอล์คเกอร์ กองหลัง แมนฯ ซิตี้ ที่ยังไม่สมบูรณ์ก็มีชื่อไปฟุตบอลโลกเหมือนกัน ส่วนนักเตะดังที่หลุดไปก็มีอย่างเช่น เจดอน ซานโช่ ปีก แมนฯ ยูไนเต็ด, รีซ เจมส์ แบ็กขวา เชลซี ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน และ แทมมี่ อับราฮัม กองหน้า โรม่า

รายชื่อนักเตะทีมชาติอังกฤษ ทั้ง 26 คนมีดังนี้

ผู้รักษาประตู : จอร์แดน พิคฟอร์ด (เอฟเวอร์ตัน), นิค โป๊ป (นิวคาสเซิ่ล), แอรอน แรมส์เดล (อาร์เซน่อล)

กองหลัง : เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล), คอนอร์ โคดี้ (เอฟเวอร์ตัน ยืมตัวจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน), เอริก ดายเออร์ (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์), แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (แมนฯ ยูไนเต็ด), ลุค ชอว์ (แมนฯ ยูไนเต็ด), จอห์น สโตนส์ (แมนฯ ซิตี้), คีแรน ทริปเปียร์ (นิวคาสเซิ่ล), ไคล์ วอล์คเกอร์ (แมนฯ ซิตี้), เบน ไวท์ (อาร์เซน่อล)

กองกลาง : จู๊ด เบลลิงแฮม (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์), เมสัน เมาน์ท (เชลซี), คาลวิน ฟิลลิปส์ (แมนฯ ซิตี้), เดแคลน ไรซ์ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ลิเวอร์พูล), คอนอร์ กัลลาเกอร์ (เชลซี) 

กองหน้า : มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนฯ ยูไนเต็ด), ฟิล โฟเด้น (แมนฯ ซิตี้), แจ็ค กรีลิช (แมนฯ ซิตี้), แฮร์รี่ เคน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์), เจมส์ แมดดิสัน (เลสเตอร์ ซิตี้), บูกาโย่ ซาก้า (อาร์เซน่อล), ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (เชลซี), คัลลัม วิลสัน (นิวคาสเซิ่ล)

สำหรับ โปรแกรมการแข่งขัน ของ ทีมชาติอังกฤษ จะลงสนามแมตช์แรก พบกับ อิหร่าน ในคืนวันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน นี้ แมตช์ที่สอง พบกับ สหรัฐอเมริกา ในคืนวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน นี้ และนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่ม จะพบกับ เวลส์ ในคืนวันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน นี้

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.