จาก สตีฟ! 4 หัวข้อที่เวียดนามต้องทำหากหวังไปบอลโลก 2026
อดีตกุนซือทีมชาติไทย อย่าง สตีฟ ดาร์บี้ ผู้ฝึกสอนชาวอังกฤษ วัย 67 ปี ที่มีประสบการณ์ฟุตบอลอาเซียน หรือเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้อย่างโซกโซน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อเวียดนามอย่าง VN Express สื่อของเวียดนามถึงโอกาสที่ทีมชาติเวียดนามจะประสบความสำเร็จในการไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 2026 หลังจากที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า มีการเพิ่มทีมในรอบสุดท้าย ทำให้ทวีปเอเชียได้โควตา 8.5 ทีม
เกี่ยวกับเรื่องนี้ สตีฟ ดาร์บี้ ผู้ฝึกสอนชาวอังกฤษ เผยว่า เวียดนามในยุคของ ปาร์ค ฮัง ซอ พัฒนาขึ้นมามากในเรื่องของคุณภาพทีม ทั้งการคว้ารองแชมป์ 23 ปี เอเชีย 2018 และ การคว้าแชมป์รายการต่างๆ ที่สำคัญก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในทีมที่ติดอันดับท็อป 100 ของโลก แต่เรื่องของการจะเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายนั้นยังมีรายละเอียดที่เวียดนามจะต้องเร่งทำ 4 อย่าง ประกอบไปด้วย
- ผู้เล่นที่มีคุณภาพสูงของประเทศต้องกล้าออกไปเล่นฟุตบอลอาชีพต่างแดนในลีกที่คุณภาพสูงกว่า เช่นเจลีก,เคลีก โดยรายของ เหงียน ควง ไฮ ที่เดินทางไปเล่นที่ฝรั่งเศสก็เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่กล้าตัดสินใจไปต่อสู้ เชื่อว่าเขาจะได้ประสบการณ์ที่ดีกลับมาช่วยทีมชาติ
- การลดปริมาณจำนวนทีมในลีกและปรับปรุงคุณภาพในการสรรหาผู้เล่นสู่ลีกอาชีพในประเทศ ที่สำคัญต้องพัฒนากองหน้าเชื้อสายเวียดนามให้มีโอกาสมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันโอกาสในสนามจะเป็นผู้เล่นต่างชาติ กลับกันผู้เล่นต่างชาติที่เข้ามาในวีลีกในตำแหน่งกองหน้าควรจะเป็นแบบอย่างในการพัฒนาผู้เล่นในประเทศคัดสรรนักเตะคุณภาพดีต่างชาติมาพัฒนาความสามารถผู้เล่นเวียดนาม
- สโมสรในเวียดนามต้องจัดการเรื่องของสภาพสนามแข่งขัน,ฝึกซ้อม ให้ได้มาตรฐานสำหรับการร่วมพัฒนานักกีฬา
- สุดท้ายบุคลากรทางการแพทย์ต้องผ่านการรับรองและมีคุณภาพที่ดีพร้อมกับจำนวน เพื่อป้องกันปัญหาการบาดเจ็บนักกีฬาโดยไม่จำเป็นหรือรักษาแบบถูกวิธี จะทำให้นักกีฬาสมบูรณ์
สำหรับ สตีฟ ดาร์บี้ ผู้ฝึกสอนชาวอังกฤษ วัย 67 ปี เคยผ่านานคุมทัพทั้งสโมสรและทีมชาติในอาเซียนมากมาย ทั้งการคุมทีม ฟุตบอลหญิงเวียดนาม,ไทย และ ลาว ส่วนระดับสโมสรนั้นเคยผ่านงานการคุมทีม ยะโฮร์ฯ,โฮม ยูไนเต็ด,เปรัก,กลันตัน
ที่มาของภาพ : gettyimages
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.