Football Sponsored

เมื่อดิอาซบาดเจ็บพาย้อนให้นึกถึงพี่เบ็ค

Football Sponsored
Football Sponsored

อาการบาดเจ็บหัวเข่าของ ลุยส์ ดิอาซ หนักหนากว่าที่คาดคิดเอาไว้นะครับ รายงานข่าวกล่าวยืนยันว่านักเตะผู้นี้อาจจะอดลงสนามเป็นเวลานานถึง 6-8 สัปดาห์เลยทีเดียว !!!

หลังทราบข่าวนี้เมื่อคืน เด็กผีอย่างผมก็อยากจะบอกว่า…

1. ก่อนอื่นขอให้ ลุยส์ ดิอาซ หายเจ็บเร็วๆ นะครับ และขอภาวนาให้หายเจ็บก่อนกำหนด

แม้ผมจะไม่อยากเห็นความสำเร็จของหงส์แดง แถมเป็นคู่แค้นตลอดชาติ แต่ผมไม่เคยยินดีที่เห็นผู้เล่นทีมคู่แข่งบาดเจ็บ

2. สารภาพตามตรงว่าปีกซ้ายทีมชาติโคลอมเบียผู้นี้เป็นผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล ที่ผมชอบนะครับ 

เหมือนที่ครั้งหนึ่งเคยนับถือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ในฐานะศัตรูที่รัก

ชอบด้วยรู้สึกว่าเขาเป็นนักเตะชาวเผ่าที่ดูซื่อๆ ใสๆ เฉิ่มๆ ดี เหมือนไอ้ตูดบ้านนอกเข้ากรุง ลีลาการเล่นแพรวพราว เมามัน ทำให้ดูสนุก แถมชอบความตั้งใจเล่นฟุตบอลอย่างเดียว และเต็มที่แบบไม่มีมารยา

3. ว่าแล้วก็นึกถึงความหลังครั้งที่ เดวิด เบ็คแฮม ถูก อัลโด ดุสเชอร์ ไอ้โหดแห่ง อาร์เจนติน่า ของ ลา คอรุนย่า หวดเดี้ยงในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อเดือนเมษายน ฤดูกาล 2001/02 

ณ ตอนโน้น ผมถูกเนรเทศไปตะบันชีวิตกระจอกข่าวที่เมืองหลวงลูกหนัง โดยวางตูดอยู่ที่เพรสส์ บ๊อกซ์ ในโรงละครแห่งความฝันพอดี

เดวิด เบ็คแฮม ถูกหามออกตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรก โดยยังไม่รู้อาการว่ามากน้อยขนาดไหน 

จำได้ว่าตอนจบเกม ผมรีบวิ่งเข้าไปฟังรายงานอาการบาดเจ็บของพี่เบ็คส์ในห้องแถลงข่าว ก่อนมีการแจ้งให้ทราบว่า DB7 กระดูกเท้าแตกอาจอดลงสนามนานถึง 8 สัปดาห์ จนมีโอกาสพลาดการไปร่วมศึก เวิลด์ คัพ ฉบับเอเชีย 2002 

พลันก็เกิดอาการ ‘อึ้งแดกไปเลยค่ะ’ ตัวแข็งทื่อ มึนงง และทำอะไรไม่ถูกไปหลายวินาที ก่อนจะตั้งสติได้จึงรีบโทรศัพท์เข้าไปรายงานข่าวด่วนเรื่องนี้ทาง ‘สปอร์ต เรดิโอ’ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

คือเจอเรื่องแบบนี้แล้วจิตใจมันหดหู่ครับ

ผมจึงรู้ว่าตอนนี้ พวกพรี่ๆ ห่อเหี่ยวมากขนาดไหน

ต่อให้เป็นผู้เล่นตัวเก่งของคู่แข่งก็เถอะ

ว่าแล้วขอเป็นกำลังใจให้พวกพรี่ๆ และลุยส์ ดิอาซ ด้วยนะครับ

สุดท้าย เดวิด เบ็คแฮม หายเจ็บทันได้ไปเล่นฟุตบอลโลก 2002

“บอ.บู๋”

ที่มาของภาพ : GETTY IMAGE

BY : บอ.บู๋

บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.