Football Sponsored

สมัยที่7!’อังกฤษ’ชนโปแลนด์คัดบอลโลก

Football Sponsored
Football Sponsored

วันพุธ ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ไอคืนวันพุธนี้ ซึ่งเป็นนัดที่ 3 ของการดวลแข้ง ในเวลา 01.45 น.“สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ที่เก็บชัยชนะมา 2 เกมรวดมี 6 คะแนนเต็ม จากการเอาชนะ ซาน มารีโน่ 5-0 และแอลเบเนีย 2-0 จะดวลกับ ทีมชาติโปแลนด์

เกมนี้ อังกฤษ ไม่มี มาร์คัส แรชฟอร์ด และบูกาโย่ ซาก้าที่ไม่สมบูรณ์และถอนตัวออกไป ที่เหลือไม่มีปัญหาอะไร คาดว่าแกเร็ธ เซาธ์เกต อาจจะปรับระบบการเล่นหลังจากที่ใช้แผนแบ๊กโฟร์มา 2 เกมติด หันมาเล่น 3-4-3 เดแคลน ไรซ์ คุมแดนกลางร่วมกับ เจมส์ วอร์ด-พราว์ส วิงแบ๊กสองฝั่งจะเปลี่ยนมาใช้รีซ เจมส์ และเบน ชิลเวลล์ แนวรุกวาง เมสัน เมาท์, แฮร์รี่ เคน และราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นสามประสาน

ทีมเยือน โปแลนด์ ที่ชนะ 1 เสมอ 1 มี 4 คะแนนรั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม ปัญหาสำคัญคือจะไม่มี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ดาวยิงความหวังสูงสุดได้รับบาดเจ็บจากนัดที่แล้ว ส่วน ลูคัสซ์ สโครุปสกี้ ติดโควิด-19 ถอนตัวออกจากทีมไป เมื่อไม่มีเลวานดอฟสกี้ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค จะยืนคู่หัวหอกกับ คริสซ์ตอฟพีออนเท็ค โดยมี ปีโอเตอร์ ซีลีนสกี้ คอยปั้นเกมอยู่ด้านหลัง ส่วนแนวรับยังใช้ตัวเก๋าอย่าง คามิล กลิค เล่นกับแยน เบดนาเร็ค

สถิติการพบกันทั้งสองทีม 19 นัด อังกฤษ ชนะ 11 เสมอ 7 และแพ้หนเดียวเท่านั้น พร้อมกับเป็นการโคจรมาปะทะกันในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก มากที่สุดถึง 7 สมัย เข้าให้แล้ว เริ่มจากคัดบอลโลก 1974 ซึ่ง เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ โปแลนด์ คว้าชัยได้สำเร็จ ด้วยสกอร์ 2-0 ก่อนจะตามมาเสมอถึงเวมบลีย์ 1-1 เตะ อังกฤษ ตกรอบคัดเลือก

จากนั้นพบกันคัดบอลโลกปี 1990 อังกฤษ เฝ้าบ้านชนะ 3-0 และเสมอ 0-0, คัดบอลโลก 1994 อังกฤษ บุกเสมอ 1-1 และชนะ 3-0, คัดบอลโลก 1998 อังกฤษ ชนะ 2-1 ก่อนบุกชนะ 2-0, คัดบอลโลก 2006 ชนะไปกลับสกอร์เท่ากันที่ 2-1 และคัดบอลโลก 2014 นัดแรกเสมอบ้านโปแลนด์ 1-1 และอังกฤษ เฝ้าถ้ำชนะ 2-0

นอกจากนี้ทั้งคู่ยังหนีกันไม่ออก เจอกันในการคัดเลือกฟุตบอลยูโร อีก 2 สมัย ในปี 1992 กับ ปี 2000 อีกด้วย

สำหรับคู่นี้เจอกันครั้งเดียวในการเตะรอบสุดท้ายระดับนานาชาติ นั่นคือ ฟุตบอลโลก 1986 ครั้งนั้นเป็นการเตะรอบแรกนัดสุดท้าย ที่มอนเตอเรย์ สกอร์จบลงที่ อังกฤษ ชนะ 3-0จากแฮททริกของ แกรี่ ลินิเกอร์ ที่ใช้เวลาเพียง 34 นาทีเท่านั้น

ทางด้าน “ไก่ทองคำ” ทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์เก่า จะลงเล่นในกลุ่ม ดี ด้วยการบุกไปเยือน บอสเนีย แอนด์ เฮอร์โซโกวีน่าเวลา 01.45 น. โดย ฝรั่งเศส นัดที่แล้วแก้ตัวบุกเอาชนะคาซัคสถาน 2-0 หลังจากเกมแรกหลุดเสมอกับ ยูเครน 1-1 ความพร้อมไม่มี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่บาดเจ็บถอนตัวกลับไปรักษาที่เชลซีในรายของ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ถูกเปลี่ยนตัวจากเกมที่แล้วเหมือนจะไม่สมบูรณ์ คาดว่า ดิดิเย่ร์ เดสชองส์ น่าจะปรับทัพตามความเหมาะสม โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ จะกลับมายืนตัวจริงในตำแหน่งหน้าเป้า เช่นเดียวกับแนวรุกที่จัดเต็ม วาง อุสมาน เดมเบเล่ ประสานงานกับ อองตวน กรีซมันน์ และคิลิยัน เอ็มบาปเป้

ฝั่ง บอสเนียฯ ที่เพิ่งลงเล่นมาแค่เกมเดียวด้วยการบุกไปเสมอกับ ฟินแลนด์ 2-2 ทีมชุดนี้เปลี่ยนแปลงไปพอสมควรเอดิน วิซก้า ตัวรุกจากอิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ บาดเจ็บ แต่ขุมกำลังถือว่าแข็งแกร่ง หัวใจหลักคือ มิดฟิลด์อย่าง มิราเล็มปานิช จากบาร์เซโลน่า ที่จะลงเป็นตัวกำหนดเกม มี ราเด้ ครูนิช จากเอซี มิลาน ทำเกมรุกริมเส้นสนับสนุนหน้าเป้า เอดิน เชโก้

สถิติการพบกันทั้งสองทีมเจอกันมา 4 ครั้ง ฝรั่งเศสไม่แพ้เลย โดยเอาชนะได้ 2 และเสมอ 2 หนล่าสุดที่ดวลกันคือยูโรรอบคัดเลือกเมื่อปี 2011 เสมอกันไป 1-1

อีกคู่ที่น่าสนใจ เป็นการเตะกลุ่ม ซี “อินทรีเหล็ก” ทีมชาติเยอรมนี พบกับ ทีมชาตินอร์ท มาซิโดเนีย เวลา 01.45 น.โดยที่ “อินทรีเหล็ก” ชนะมา 2 เกมติดยังไม่มี โทนี่ โครส และนิคลาส ซือเล่ ที่บาดเจ็บถอนตัวออกไป ที่เหลือไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เชื่อว่า โยอาคิม เลิฟ อาจจะปรับทัพบางตำแหน่ง เลออน กอเร็ตซ์ก้า จะถูกถอดออกไป ให้ โยชัว คิมมิช คุมแดนกลางกับอิลคาย กุนโดกัน ในแผน 4-2-3-1 เกมรุกใส่ดาวรุ่ง จามาลมูเซียล่า ไปปั้นเกมกับไค ฮาแวร์ตซ์ และตีโม แวร์เนอร์ พร้อมขยับ แซร์ก นาบรี้ ไปยืนหน้าเป้า

ทางฝั่งทีมเยือน นอร์ท มาซิโดเนีย ชนะ 1 แพ้ 1 เกมล่าสุดเปิดบ้านถล่ม ลิกเตนสไตน์ ขาดลอย 5-0 ทีมชุดนี้ไม่มีอีวาน ทริคคอฟสกี้, ทีโฮเมียร์ คอสตาดินอฟ และกอยโก้ ซาจ์คอฟที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคระบาดโควิด-19 เอซยาน อลีออสกี้ จะเป็นตัวความหวังในแนวรุก ส่วนแดนกลางมี เอนิส บาร์ดี้ ที่เล่นกับเลบันเต้ และเอลจิฟ เอลมาส จากนาโปลีผนึกกำลังกัน แดนหน้ายังใช้ตัวเก๋า โกราน ปานเดฟ เป็นตัวชูโรง

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.