“มาโน่” นำทัพ ! ช้างศึกเตรียมแอ่วเหนือ 19 ก.ย. ก่อนซ้อมมื้อแรกทันทีที่อัลไพน์
ความเคลื่อนไหวของทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ทีมอันดับ 111 ของโลก ภายใต้การคุมทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง โดยมี “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้จัดการทีม ที่เตรียมลุยศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 รอบรองชนะเลิศ พบกับ ทีมชาติมาเลเซีย ทีมอันดับ 148 ของโลก ในวันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ย.65
ล่าสุด กำหนดการของทีมชาติไทย เตรียมที่จะเดินทางบินไป จ.เชียงใหม่ ในวันจันทร์ที่ 19 ก.ย.นี้ โดยบรรดานักเตะทัพ “ช้างศึก” จะรวมพลกันที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ในเวลา 10.00 น. เพื่อเดินทางไปท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ นอกจากนี้ช่วงเย็นเวลา 17.00 น. มาโน่ โพลกิ้ง จะนำลูกทีมลงฝึกซ้อมมื้อแรกทันทีที่อัลไพน์ กอล์ฟ รีสอร์ท
ขณะที่ 2 นักเตะจากแดนอาทิตย์อุทัยทั้ง “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมคเกอร์คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ รวมไปถึง “เช็ค” สุภโชค สารชาติ แนวรุกคอนซาโดเล่ ซัปโปโร จะบินตามมาสมทบกับทีมในภายหลัง หลังเพิ่งเสร็จภารกิจช่วยต้นสังกัดลุยศึกเจลีก 2022 แมตช์วีก 30 ช่วงวันที่ 17-18 ก.ย. ที่ผ่านมา
สำหรับทีมชาติไทย พบ ทีมชาติมาเลเซีย จะลงเตะเป็นคู่ที่สอง ณ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เวลา 20.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่องไทยรัฐทีวี HD32 และช่อง AIS Play ส่วนคู่แรกระหว่าง ตรินิแดดแอนด์โตเบโก พบ ทาจิกิสถาน แข่งขันเวลา 17.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง AIS Play ซึ่งผู้ชนะของแต่ละคู่จะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ส่วนผู้แพ้จะเล่นรอบชิงอันดับ 3 ในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ย.65 ตามลำดับ
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.