จับตาตำแหน่งดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022 “แฮร์รี่ เคน” ดาวยิงทีมชาติอังกฤษถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่ง และลุ้นสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะคนแรกที่ซิวรางวัลดาวซัลโวเวิลด์คัพ 2 สมัยติดต่อกัน
นอกจากตำแหน่ง “แชมป์โลก” ที่ทุกคนจับตามองแล้ว อีกหนึ่งรางวัลที่ถือเป็นไฮไลท์ของศึกฟุตบอลโลกทุกครั้ง นั่นคือรางวัล รองเท้าทองคำ (Golden Boot) หรือตำแหน่ง ดาวซัลโว นั่นเอง
สำหรับศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ มีสุดยอดศูนย์หน้าฝีเท้าระดับพระกาฬหลายคนที่ถูกมองว่ามีลุ้นตำแหน่งดาวซัลโว ไม่ว่าจะเป็น เนย์มาร์ (บราซิล) ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า) คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส) โรเมลู ลูกากู (เบลเยียม) รวมถึงสองดาวยิงจากทีมแชมป์เก่า ฝรั่งเศส คิลิยัน เอ็มบัปเป้ กับ คาริม เบนเซม่า
แต่เพชฌฆาตที่บริษัทรับพนันแบบถูกกฏหมายพร้อมใจกันยกให้เป็นเต็งหนึ่งที่มีโอกาสผงาดบัลลังก์ดาวซัลโวมากที่สุด คือ แฮร์รี่ เคน ยอดกองหน้า “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ
เคน เป็นนักเตะที่มีสถิติยอดเยี่ยมกับทีมชาติ ด้วยผลงานลงเล่น 73 นัดซัดไปแล้ว 50 ประตู (สถิติ ณ มิถุนายน 2022) ซึ่งขาดอีกเพียง 3 ประตูเท่านั้นก็จะทำสถิติเทียบเท่ากับ เวย์น รูนีย์ เจ้าของสถิติยิงประตูให้ทีมชาติอังกฤษมากที่สุด 53 ลูก ซึ่งดูแล้ว หัวหอกจากสเปอร์สน่าจะยิงทุบสถิติของ รูนี่ย์ ได้ไม่ยาก เพียงแต่ว่าจะช้าหรือเร็วแค่ไหนเท่านั้นเอง
อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ เคน ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งดาวซัลโวในฟุตบอลโลก 2022 เพราะว่าทีมชาติอังกฤษเจอคู่แข่งค่อนข้างเบาในรอบแบ่งกลุ่ม ได้แก่ เวลส์, อิหร่าน และสหรัฐอเมริกา ทำให้ทีมสิงโตคำรามมีโอกาสที่จะทะลุเข้ารอบลึกๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสที่ เคน จะได้ผลิตสกอร์มากขึ้นไปอีก
ขณะเดียวกัน หากเทียบเป็นกราฟ แฮร์รี่ เคน ในวัย 29 ปี ถือว่าอยู่ในช่วงพีกของอาชีพค้าแข้ง ด้วยคุณสมบัติครบถ้วนทั้งฟอร์มการเล่น สภาพร่างกาย และประสบการณ์ นอกจากนี้ สิ่งที่ลืมไม่ได้เลยคือ เคน เป็นเจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ด้วยผลงานซัดไปถึง 6 ประตู
และถ้าในที่สุด ดาวยิงกัปตันทีมชาติอังกฤษรายนี้คว้ารางวัล “รองเท้าทองคำ” ได้ที่กาตาร์อีก จะทำให้เขาสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะคนแรกที่ครองตำแหน่งดาวซัลโวฟุตบอลโลกได้ 2 สมัยติดต่อกัน ซึ่งตลอดประวัติศาสตร์ 92 ปีของศึกฟุตบอลโลก ไม่เคยมีมนุษย์คนไหนทำได้มาก่อน!!
ปี | เจ้าภาพ | ดาวซัลโว | ประตู |
1930 | อุรุกวัย | กิเยร์โม สตาบิเล (อาร์เจนตินา) | 8 |
1934 | อิตาลี | โอดริช เนเจดลี (สาธารณรัฐเช็ก) | 5 |
1938 | ฝรั่งเศส | เลโอนิดาส (บราซิล) | 7 |
1950 | บราซิล | อเดเมียร์ (บราซิล) | 8 |
1954 | สวิตเซอร์แลนด์ | ซานดอร์ คอซซิส (ฮังการี) | 11 |
1958 | สวีเดน | จุสต์ ฟองแต็ง (ฝรั่งเศส) | 13 |
1962 | ชิลี | ฟลอเรียน อัลเบิร์ต (ฮังการี) วาเลนติน อิวานอฟ (สหภาพโซเวียต) การ์รินช่า (บราซิล) วาว่า (บราซิล) ดราแซน เยอร์โควิช (ยูโกสลาเวีย) ลิโอเนล ซานเชซ (ชิลี) | 4 |
1966 | อังกฤษ | ยูเซบิโอ (โปรตุเกส) | 9 |
1970 | เม็กซิโก | แกร์ด มุลเลอร์ (เยอรมนี) | 10 |
1974 | เยอรมนีตะวันตก | เกอร์เซกอซ ลาโต้ (โปแลนด์) | 7 |
1978 | อาร์เจนตินา | มาริโอ เคมเปส (อาร์เจนตินา) | 6 |
1982 | สเปน | เปาโล รอสซี่ (อิตาลี) | 6 |
1986 | เม็กซิโก | แกรี่ ลินิเกอร์ (อังกฤษ) | 6 |
1990 | อิตาลี | ซัลวาตอเร่ สคิลลาชี่ (อิตาลี) | 6 |
1994 | สหรัฐอเมริกา | โอเล็ก ซาเลนโก้ (รัสเซีย) ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ (บัลแกเรีย) | 6 |
1998 | ฝรั่งเศส | ดาวอร์ ซูเคอร์ (โครเอเชีย) | 6 |
2002 | เกาหลีใต้/ญี่ปุ่น | โรนัลโด้ (บราซิล) | 8 |
2006 | เยอรมนี | มิโรสลาฟ โคลเซ่ (เยอรมนี) | 5 |
2010 | แอฟริกาใต้ | โธมัส มุลเลอร์ (เยอรมนี) | 5 |
2014 | บราซิล | ฮาเมส โรดริเกซ (โคลอมเบีย) | 6 |
2018 | รัสเซีย | แฮร์รี่ เคน (อังกฤษ) | 6 |
ฟุตบอลโลก 2022 | กาตาร์ | ??? | ? |
————————————————-
วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่ – ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี!
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ
อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก
หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก
This website uses cookies.