ยังตามเวียดนาม ฟีฟ่า ประกาศอันดับโลก “ทีมชาติไทย” เดือน ส.ค. เบอร์ 1 “บราซิล”
วันที่ 26 สิงหาคม 2565 สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ประกาศการจัดอันดับฟีฟ่า แรงกิ้ง ประจำเดือน สิงหาคม ออกมาแล้ว โดยเดือนนี้ไม่มีการแข่งขันฟีฟ่าเดย์ ของทัพ “ช้างศึก” ยังคงรั้งอันดับ 111 ของโลก ตามเดิม เป็นอันดับ 2 อาเซียน และ อันดับ 21 ของเอเชีย ขณะที่หมายเลข 1 ของโลก ยังคงเป็น บราซิล ตามมาด้วยอันดับ 2 และ 3 อย่าง เบลเยียม และ อาร์เจนตินา
5 อันดับแรกของโลก
– บราซิล
– เบลเยียม
– อาร์เจนตินา
– ฝรั่งเศส
– อังกฤษ
5 อันดับแรกของเอเชีย
– อิหร่าน (22)
– ญี่ปุ่น (24)
– เกาหลีใต้ (28)
– ออสเตรเลีย (39)
– กาตาร์ (48)
5 อันดับแรกของอาเซียน
– เวียดนาม (97)
– ไทย (111)
– ฟิลิปปินส์ (134)
– มาเลเซีย (148)
– อินโดนีเซีย (155)
ทั้งนี้โปรแกรมต่อไปของทีมชาติไทย จะลงเล่นในศึก 4 เส้า ที่จังหวัดเชียงใหม่ 2 นัด ระหว่างวันที่ 22-25 กันยายนนี้ ณ สนามกีฬาสมโภชน์เชียงใหม่ 700 ปี โดยรอยืนยันคู่แข่งขันอีกครั้ง ทีมที่เข้าร่วม ทีมชาติไทย (111), มาเลเซีย (147), ทาจิกิสถาน (108) และ ตรินิแดดและโตเบโก (101) หาก “ช้างศึก” ทำผลงานได้ดีก็จะมีผลต่อการแบ่งโถทีมวางฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกอีกด้วย
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.