Football Sponsored

วิธีจัดการแม่มด – Siamsport

Football Sponsored
Football Sponsored

“The week was crazy… it was like we had a witch in the building… every day someone else pulled out [injured].”

แปลเป็นไทยประมาณว่า “สัปดาห์นี้มันเพี้ยนมาก ๆ เหมือนกับว่ามีแม่มดซ่อนตัวอยู่ในตึกของเรา เพราะทุกวันจะต้องมีคนที่ได้รับบาดเจ็บอยู่เสมอ”

เจอร์เก้น คล็อปป์ ตัดพ้อต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นที่ลามมาถึงปัจจุบัน

ไล่เรียงรายชื่อลูกทีมของเขาที่บาดเจ็บ…

ควีวิน เคลเลเฮอร์ นายด่านไอริช บาดเจ็บตั้งแต่ไปลงเล่นให้ทีมชาติไอร์แลนด์ เมื่อเดือนมิถุนายน และปรีซีซั่นก็ไม่ได้ร่วมลงเล่นกับทีมสักนัด

คาลวิน แรมซี่ย์ นับตั้งแต่จรดปากกาเซ็นสัญญากับทีมก็ไม่ได้ร่วมสังคายนากับเพื่อนใหม่

อิบราฮิม่า โกนาเต้ เจ็บตอนเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายกับ สตราส์บูร์ก

โฌแอล มาติป เจ็บโคนขาหนีบตอนซ้อมก่อนเกมดวล คริสตัล พาเลซ

ติอาโก้ อัลกันตาร่า เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าเกมเจอ ฟูแล่ม

เคอร์ติส โจนส์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, เคด กอร์ดอน 3 รายนี้เจ็บตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น

ส่วนแนวรุก ดิโอโก้ โชต้า ไม่ฟิตตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์เพราะเจ็บจากเกมกับทีมชาติโปรตุเกส

โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ มีปัญหากล้ามเนื้อเล็กน้อย

ส่วน ดาร์วิน นูนเญซ ก็โดนไล่ออก อดลงเล่นเกมลีก 3 นัด

จากวันชูโล่การกุศลที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับ ลิเวอร์พูล ล้วนมั่นใจ และภูมิใจ ซึ่ง คล็อปป์ เองก็ปลาบปลื้มกับการที่สามารถเอาชนะคู่แข่งยากที่สุดอย่าง แมนฯ ซิตี้ ได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ สร้างความเป็นกังวลใจแก่ “เดอะ ค็อป” เมื่อผลการแข่งขันเกมเปิดม่าน พรีเมียร์ลีก ไม่เป็นใจ และไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย

สภาพทีมที่เต็มไปด้วยผู้เล่นบาดเจ็บ และฟอร์มของผู้เล่นหลายคนตกลงจากเดิม สองเรื่องนี้คือปัญหาชิ้นใหญ่ที่ทีมสตาฟฟ์ “หงส์แดง” ต้องเร่งแก้ไข

เรื่องแรกเป็นสิ่งที่ ลิเวอร์พูล เจอแทบทุกปีในยุคของบอสเจเค จนตัวเขาเองถึงกับเอ่ยปากไม่เข้าใจต่อโชคชะตาดังบรรทัดแรกสุด

หลายกระแสเรียกร้องให้สโมสรดึงกองกลางคนใหม่เข้ามาเพื่อยกระดับให้ทีมดีขึ้น

บรรดากูรูเสนอความคิดที่ ลิเวอร์พูล ต้องเสริมมิดฟิลด์เข้ามา เพื่อต่อกรกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันไม่ใช่การแก้ปัญหาในสไตล์ของชายชื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์

เขาเชื่อมั่นในขุมกำลังที่มีอยู่ตอนนี้ และเมื่อมองรายชื่อผู้เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ที่พร้อมใช้งานในตอนนี้ ยังมีนักเตะอย่าง เจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิต้า หรือกระทั่ง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์

ทั้งหมดสามารถทดแทนคนอื่น ๆ ที่ขาดหายไปได้ แต่ถ้าถามว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้คนที่ผลงานตกกลับคืนฟอร์มให้ได้ไวที่สุด ก็ต้องตอบว่า “เวลา”

2 เกมผ่านไป เราเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างจากคู่แข่งอย่าง ฟูแล่ม กับ คริสตัล พาเลซ..

มาร์โก ซิลวา กุนซือ “เจ้าสัวน้อย” วางแผนที่จะทำทุกทางเพื่อหยุดความดุดันของ ลิเวอร์พูล เช่นเดียวกับที่ ปาทริค วิเอร่า ทำได้กับ “ดิ อีเกิ้ลส์”

โจทย์ใหญ่ของ คล็อปป์ คือทำอย่างไรเพื่อเจาะจุดที่ทีมตรงข้ามงัดไม้นี้เพื่อมาสู้กับลูกทีมของเขา

พูดแบบไม่คิดมากคือต้องเล่นตามแบบฉบับตัวเอง

เกมเร็ว, ดุดัน, โจมตีเข้าใส่ คือสิ่งที่ “หงส์แดง” ของ คล็อปป์ ทำได้มาตลอด

ทว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ที่เหมือนเป็นแผลเล็ก ๆ แต่เป็นแผลที่ยังไม่ขาด คือ -เกมรับ-

เป็นจำนวน 6 เกมลีกติดต่อกันเข้าให้แล้วที่ ลิเวอร์พูล เสียประตูให้คู่แข่งไปก่อน

แต่เกมเหล่านั้น ลิเวอร์พูล กลับมาได้ตลอด มีเพียงแค่ 2 เกมแรกของฤดูกาลนี้ที่พวกเขาไม่ใช่ผู้ชนะ

การทำหล่น 4 แต้มจาก 6 คะแนนเต็ม นับเป็นเรื่องเสียหาย เมื่อ แมนฯ ซิตี้ ผ่านฉลุยทั้งหมด

ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมจากการได้ เออร์ลิง ฮาลันด์

ส่วน ลิเวอร์พูล ยังเจอหลุมบ่อใหญ่กับการหายไปของ ซาดิโอ มาเน่

หลุยส์ ดิอาซ คือคนที่ถูกเปรียบเทียบกับดาวเตะทีมชาติเซเนกัล เพราะด้วยตำแหน่งการเล่นเหมือนกัน

และเราได้เห็นชั้นเชิงของเขาแล้วในลูกตีเสมอ พาเลซ

คล็อปป์ กล่าวก่อนเกมล่าสุดว่า ดิอาซ ขอแค่ลูกแรกในซีซั่นนี้ให้ได้ก่อน แล้วทุกอย่างก็จะตามมาเอง

แล้ว ดิอาซ ก็ทำได้…

มองในแง่รูปทรง และการเข้าทำ รูปแบบการเล่นยังอยู่ในแง่บวก แต่มันไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซนต์เมื่อมองถึงประตูที่ควรจะได้

ดาร์วิน แข้งใหม่ที่หมายมั่นเข้ามาเติมเต็มกระสุนกลับต้องนั่งชดใช้สิ่งที่ตัวเองทำ

ช่วงเวลาที่เขาไม่ได้ลงเล่นคือการนั่งทบทวนตัวเองเพื่อให้จิตใจแข็งแกร่งขึ้นในการรับมือกับการยั่วยุของฝั่งตรงข้าม

ความตึงเครียดของฤดูกาลนี้ คือระยะเวลาการแข่งขันนานขึ้นเนื่องจากมีฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มาคั่นกลางระหว่างซีซั่น

การวางแผนอะไรต่าง ๆ ต้องละเมียด

14 เกมก่อนพักเบรกบอลโลก บอกไม่ได้ว่า ลิเวอร์พูล จะเก็บได้อีกกี่แต้มเมื่อถึงตอนนั้น

แต่สิ่งที่ต้องทำคือการแก้ปัญหาที่มันเกิดขึ้นเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว

ปัญหาไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับ คล็อปป์

เขาคือคนที่จัดการสิ่งนี้ได้ดีที่สุด และยังมีสตาฟฟ์อีกหลายชีวิตเป็นคนคู่คิด

อย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าการคั่วแชมป์ลีกจบลงแล้ว…

ฤดูกาลก่อน ลิเวอร์พูล ก็เคยเจอนักเตะบาดเจ็บร่วม 10 ราย หรือย้อนไปปีก่อนหน้าก็เจอมรสุมสาหัสบนแผงแนวรับ

ทั้งหมดทั้งมวล ลิเวอร์พูล สามารถผ่านช่วงเวลานั้นมาได้อย่างน่าประทับใจ

“I have no problem with criticism, I only have a problem if people think we can’t solve problems.”

“ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยกับเสียงตำหนิ ผมมีปัญหาแค่กับคนที่คิดว่าเราไม่มีทางแก้ปัญหาได้เท่านั้น”

คล็อปป์ เคยพูดไว้เมื่อราว 5 ปี แม้จะต่างกรรมต่างวาระ แต่ใจความมันสะท้อนถึงตัวตนเขาได้ดีที่สุด

“ทุกปัญหาย่อมมีทางออก” คำนี้ใช้ได้เสมอ ไม่ว่าสถานการณ์ต่อหน้าจะร้ายแรงหนักหนาแค่ไหน

มันคือคำกระตุ้นเตือนใจ แม้ว่าใครจะค้านว่าสิ่งนั้นคุณไม่สามารถแก้ได้

คนเป็นผู้จัดการทีม ไม่ใช่แค่ต้องมีมันสมอง หรือแท็กติกบนสนามที่เก่งเหนือใคร

แต่ต้องมีวิธีการในการรับมือปัญหาทั้งใน และนอกสนาม ซึ่งสิ่งสำคัญคือต้องทำให้ทุกคนเห็นว่าทำได้

อย่างที่เราเห็นกันจากอดีตที่ผ่านมาล่ะครับ เจอร์เก้น คล็อปป์ คือนักแก้ปัญหาที่ไม่เคยยอมแพ้ต่ออุปสรรคใด ๆ

ส่วนแม่มดที่อยู่บนตึก.. ไม่นานเขาก็จัดการมันได้

HOSSALONSO

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.