Football Sponsored

เมินเงิน100ล้านปอนด์!ร็อดเจอร์ส ลั่นไม่ขาย โฟฟาน่า,แมดดิสัน – Siamsport

Football Sponsored
Football Sponsored

เบรนแดน ร็อดเจอร์ นายใหญ่ เลสเตอร์ ซิตี้ ส่งเสียงยืนยันชัดเจนว่าสโมสรไม่คิดขาย เวสลีย์ โฟฟาน่า กับ เจมส์ แมดดิสัน สองดาวเตะตัวกลั่นแม้จะได้รับทรัพย์รวมกันสูงถึง 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,376 ล้านบาท) ก็ตาม

เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมลูกหนังของสังเวียนแข้ง คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม มีความเคลื่อนไหวในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้น้อยมากโดยถึงขณะนี้พวกเขายังไม่ได้เซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ และปล่อย แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล นายทวารมือหนึ่งให้ย้ายไปร่วมทีม นีซ ในลีกเมืองน้ำหอมแล้ว

ขณะเดียวกัน เดอะ ฟ็อกซ์ ยังเสี่ยงเสียสตาร์ดังเพิ่มอีกสองรายด้วยเนื่องจาก เชลซี ติดต่อขอซื้อ โฟฟาน่า ปราการหลัง วัย 21 ปีด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ ขณะที่ แมดดิสัน มิดฟิลด์ทีมชาติ อังกฤษ ได้รับการทาบทามจาก นิวคาสเซิ่ล โดยที่เขาน่าจะมีค่าตัวราว 60 ล้านปอนด์

กระนั้นก็ดี บีร็อด เอ่ยชัดเจนก่อนเกม พรีเมียร์ลีก นัดต้อนรับ เบรนท์ฟอร์ด ในวันอาทิตย์นี้ว่าทั้งสองจะไม่ได้ย้ายทีม

“ผมต้องคุยกับทั้งคู่อยู่นาน ผมไม่เซอร์ไพรส์ที่พวกเขาได้รับความสนใจ และ เจมส์ พัฒนาเป็นหนึ่งในนักเตะชั้นแนวหน้าของ พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว” กุนซือชาว ไอร์แลนด์เหนือ เอ่ยกับสื่อ

“ทั้งคู่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ พวกเขาได้รับเสียงจากรอบข้างกรอกใส่หู มันเป็นเรื่องสำคัญที่ผมต้องทำให้ทั้งคู่ใส่ใจกับฟุตบอล และสนุกกับการซ้อม”

“ผมมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับทั้งคู่ และผมคุยแบบเปิดอกกับพวกเขา โฟฟาน่า กับ แมดดิสัน ไม่ได้มีไว้ขาย พวกเขาเป็นนักเตะคนสำคัญของเรา”

“เราอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องปล่อยนักเตะบางราย แต่มันไม่ได้หมายความว่าเราต้องการกำจัดใครทิ้งโดยเฉพาะนักเตะชั้นดีของเรา”

สำหรับ แมดดิสัน เหลือสัญญากับสโมสรสองปี และซีซั่นก่อนมีผลงานที่สุดยอดโดยยิงได้ 18 ประตูในทุกรายการ รวมกับ 12 แอสซิสต์

ด้าน โฟฟาน่า ซึ่งต่อสัญญาห้าปีออกไปเมื่อเดือนมี.ค.ได้รับข้อเสนอจาก สิงห์บลูส์ เป็นค่าแรงสัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์ (ราว 8.7 ล้านบาท) แต่ เดอะ ฟ็อกซ์ ไม่มีแผนขายดาวเตะเฟรนช์แมนหากได้ค่าตัวน้อยกว่า 85 ล้านปอนด์ (ราว 3,719 ล้านบาท) ซึ่งจะเป็นสถิติโลกของปราการหลัง

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.