Football Sponsored

'กรวิทย์' อดีตกองหลังช้างศึก ประกาศ แขวนสตั๊ดวัย 36 ปี

Football Sponsored
Football Sponsored

“เจ้าตุ้ย” กรวิทย์ นามวิเศษ อดีตปราการหลังดีกรีทีมชาติไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวประกาศแขวนสตั๊ดเลิกเล่นอย่างเป็นทางการ ปิดฉากช่วงเวลา 15 ปีในฐานะนักฟุตบอลอาชีพในวัย 36 ปี

อดีตแนวรับของทัพ “ช้างศึก” ผ่านการค้าแข้งกับหลายสโมสรดัง ไล่ตั้งแต่สมุทรสงคราม เอฟซี, แบงค็อก ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, พีทีที ระยอง, ชลบุรี เอฟซี, เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ก่อนทีมจะย้ายมาร่วมทัพ โปลิศ เทโร เอฟซี ในฤดูกาลที่ผ่านมาเป็นทีมสุดท้าย

โดยเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวขอยุติเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นทางการ ซึ่งตรงกับวันครบรอบวันเกิดของตัวเอง

“มันมีหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผมมาก ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ ดีใจ เสียใจ หรือแม้แต่ร้องไห้ ผมก็มีฟุตบอลนี้แหละที่เข้าไปปลอบ ผมขอขอบคุณทุกๆสโมสรที่ไม่ว่าจะเป็น ปตท.ระยอง, สมุทรสงคราม, แบงค็อก ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และอีกหลายสโมสรหลายที่ผมไม่ได้เอ่ย” กรวิทย์ เริ่มกล่าว

“แต่ที่ลืมไม่ได้ และไม่เคยลืมคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ทำให้ผู้ชายคนนี้ได้สัมผัสกับคำว่า ช้างศึก จากเด็กหนุ่มคนนี้ ที่ได้แต่ฝันว่าต้องทำยังไงให้ได้สัมผัสเหมือนรุ่นพี่ๆที่เขาทำกัน ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ได้ตอบแทนแผ่นดินที่ให้ผมได้เกิดมาและอาศัยอยู่ ผมได้แต่นั่งดูผ่านหน้าจอทีวี และคิดเสมอว่าตัวเองต้องทำได้ และมันก็เป็นจริง มันเป็นช่วงเวลาที่เด็กหนุ่มคนนี้พูดไม่ออก และไม่รู้จะอธิบายยังไง ขอบคุณแฟนบอล และคนที่มีส่วนร่วมในการมอบกำลังใจที่ดีเสมอมา”

“วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะบอกลากับอาชีพที่ผมเดินมาเป็นเวลา 15ปี ถึงแม้ว่าผมจะไม่อยากเอ่ยคำนี้ก็ตาม แต่มันก็ถึงเวลาแล้วจิงๆ ผมขอยุติบทบาทในสนามไว้เพียงเท่านี้ ต่อไปนี้ผมคงทำงานอีกบทบาทหนึ่งที่ไม่ได้เกี่ยวกับฟุตบอลแล้ว แต่ผมก็ยังคงติดตามผ่านหน้าหน้าจอเหมือนเดิม งานเลี้ยงย้อมมีวันเลิกลา” อดีตปราการหลังทีมชาติไทย ทิ้งท้าย

สำหรับ กรวิทย์ นามวิเศษ ประสบความสำเร็จในอาชีพนักฟุตบอลสูงสุดในช่วงที่รับใช้ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์มากถึง 7 รายการ ได้แก่ ไทยลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 1 สมัย, แม่โขง คัพ 2 สมัย และแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยประราชทาน ประเภท ก. 1 สมัย

นอกจากนี้ กรวิทย์ เคยก้าวไปติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ทั้งหมด 20 นัด ลงเล่นทั้งฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย, ฟุตบอลกระชับมิตร รวมไปถึงฟุตบอลชาย ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ อีกด้วย

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.