กุนซือนอร์เวย์เผยโอเดการ์ดเปล่าเจ็บหนัก
สตาเล่ โซลบัคเค่น กุนซือทีมชาตินอร์เวย์ บอกเอง มาร์ติน โอเดการ์ด ไม่ได้เจ็บหนักอะไร พร้อมบอกว่ามีความหวังอย่างมากว่าแข้งวัย 22 ปี จะฟิตทันเกมกับ ตุรกี ในวันเสาร์นี้
สตาเล่ โซลบัคเค่น เทรนเนอร์ทีมชาตินอร์เวย์ กล่าวว่าอาการบาดเจ็บของ มาร์ติน โอเดการ์ด กองกลางคนเก่งของทีมไม่ได้รุนแรงมากนัก หลังจากที่ โอเดการ์ด ได้รับบาดเจ็บตรงข้อเท้าในเกม ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม จี นัดที่ชนะ ยิบรอลตาร์ 3-0 เมื่อวันพุธที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา
โอเดการ์ด กำลังอยู่ในช่วงที่ทำผลงานได้ดีกับ อาร์เซน่อล จนถึงขั้นที่แฟนบอล “ไอ้ปืนใหญ่” เรียกร้องให้บอร์ดบริหารของทีมทำการซื้อขาดเขาไปเลยหลังจากตอนนี้แค่ยืมตัวมาจาก เรอัล มาดริด อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งแรกของเกมเมื่อวันพุธที่ผ่านมานั้นแข้งวัย 22 ปีเหมือนจะข้อเท้าพลิกจนต้องรับการรักษานานในระดับหนึ่ง ก่อนที่จะโดนเปลี่ยนตัวในช่วงพักครึ่ง ซึ่งมันก็ทำให้เกิดการกลัวกันว่าเขาจะเจ็บหนักและต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานาน
“อาการบาดเจ็บของเขามันไม่ได้ร้ายแรงอะไร ผมมีความหวังอย่างมากว่า มาร์ติน จะฟิตทันเกมกับ ตุรกี ในวันเสาร์นี้” โซลบัคเค่น ระบุ
ทั้งนี้ ในเวลาต่อมา โอเดการ์ด ก็บอกเองว่าอาการของตนไม่ได้น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด “ผมข้อเท้าบิด แต่ผมคิดว่าผมจะฟิตทันสำหรับเกมในวันเสาร์นี้”
อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.