Football Sponsored

เดส์ช็องส์ ชี้ กุนซือรายนี้ดีพอคุม ‘ตราไก่’ คนต่อไป

Football Sponsored
Football Sponsored

กุนซือทีมชาติ ฝรั่งเศส คนปัจจุบัน ออกมาเปิดเผยว่า หากวันที่เขาลาเก้าอี้ มาถึง มี 1 คน ที่จะขึ้นมานั่งเก้าอี้แทนเขาได้ในทันที การันตี ด้วยผลงานมากมาย

ดิดีเย่ร์ เดส์ช็องส์ กุนซือของ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ได้ออกมาให้ความเห็นว่าหากเขาวางมือคนที่จะมารับหน้าที่นี้ต่อควรจะเป็น ซีเนดีน ซีดาน กุนซือของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ในปัจจุบัน มีคุณสมบัติเพียบพร้อมสำหรับการเข้ามารับตำแหน่งกุนซือทีม “ตราไก่” ต่อจากเขา การันตีไปด้วยแชมป์กับ มาดริด มากมาย

โดย เดส์ช็อง ออกมาเปิดเผยว่า “ความสำเร็จของเขา (ซีดาน)ในฐานะโค้ชทำให้เขาได้รับความน่าเชื่อถืออย่างมากบนม้านั่งข้างสนาม เขามีความชอบธรรม แต่ตอนนี้เขามีความน่าเชื่อถือ มันมีความเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเขาจะประสบความสำเร็จในตำแหน่งของผม”

อย่างที่ทราบกันดีว่า ดิดีเย่ร์ เดส์ช็องส์  คุมทีมชาติฝรั่งเศสมาแล้ว 9 ปีเต็ม นับตั้งแต่ที่ก้าวเข้ามารับงานกุนซือ “ตราไก่” เมื่อปี 2012 และได้นำพาเอาความสำเร็จมาสู่ ทีมชาติฝรั่งเศส มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรองแชมป์ฟุตบอล ยูโร 2016 และแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2018 ที่ประเทศรัสเซีย 

โดยกุนซือฝรั่งเศส คนปัจจุบัน เหลือสัญญากับทีมชาติ อีกแค่ 1 ปีเท่านั้น หรือหลังจบศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ และคาดว่าเจ้าตัวจะก้าวลงจากตำแหน่ง หลังรับใช้ฝรั่งเศสมาอย่างยาวนาน โดยเจ้าตัวยังมองว่า หากเจ้าตัวลงจากตำแหน่ง ตัวของ ซีเนดีน ซีดาน เอง ก็มีความชอบธรรมที่จะนั่งเก้าอี้กุนซือทีม “ตราไก่” คนต่อไป

ในขณะที่ผลงานของ ซีดาน ก็เป็นที่ยอมรับในโลกฟุตบอล หลังเจ้าตัว นำพาความสำเร็จมาสู่ ราชันชุดขาวมากมายไม่ว่าจะเป็น แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัย, แชมป์ลีก ลา ลีกา สเปน 2 สมัย, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ (ฟุตบอลสโมสรโลก 2 สมัย), ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย และ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ 2 ครั้ง

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.