การจับสลากในครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญ เพราะถือเป็นการเริ่มต้นการคัดเลือก 13 ทีมตัวแทนจากทวีปยุโรป ไปแข่งขันในรอบสุดท้าย ที่กาตาร์ ในช่วงปลายปี 2022
ก่อนพิธีจับสลากในรูปแบบเสมือนจริง (Virtual) จะเริ่มขึ้น นี่คือสิ่งที่ทุกท่านต้องรู้ก่อนที่กระบวนการทั้งหมดจะเริ่มขึ้น
รอบแรก — แข่งขันแบบพบกันหมดในกลุ่ม โดยจะแบ่งออกเป็น 10 กลุ่ม กลุ่มละ 5-6 ทีม ทีมแชมป์ของแต่ละกลุ่มรวม 10 ทีมจะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ส่วนรองแชมป์ของทั้ง 10 กลุ่ม จะต้องมาแข่งขันรอบเพลย์ออฟ เพื่อหาอีก 3 ทีมเข้าสู่รอบสุดท้าย
รอบเพลย์ออฟ — ทั้ง 10 ทีมรองแชมป์กลุ่ม จะมาสมทบกับทีมที่ทำผลงานดีที่สุดของฟุตบอล “ยูฟ่า เนชันส์ลีก” แต่ไม่ได้จบรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นแชมป์หรือรองแชมป์กลุ่ม จำนวน 2 ทีม สรุปแล้วจะทีมที่จะเข้าแข่งขันรอบนี้ 12 ทีม
จากนั้น ทั้ง 12 ทีม จะถูกจับสลากมาอยู่ในเส้นทางต่างๆ รวม 3 เส้นทาง เส้นทางละ 4 ทีม ประกอบด้วย PATH A, PATH B และ PATH C แข่งขันในรูปแบบน็อกเอาต์นัดเดียวจบ (ทีมอันดับสองที่ผลงานดีที่สุดในรอบคัดเลือก 6 ทีม จาก 10 ทีม จะการันตีเล่นในบ้านรอบแรก ส่วนอีก 4 ทีมที่เหลือ และตัวแทนพิเศษจากยูฟ่า เนชันส์ลีก จะเล่นเป็นทีมเยือน ส่วนรอบชิงชนะเลิศของแต่ละเส้นทาง ตัดสินจากการจับสลาก)
ทีมที่เป็นแชมป์ของแต่ละเส้นทาง รวม 3 ทีม จะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ต่อไป
การจับสลากในรอบแบ่งกลุ่ม จะจัดโถทีมวางในแต่ละกลุ่ม จากอันดับโลกฟีฟ่าวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ ทีมที่มีอันดับในโซนยุโรป อันดับ 1-10 จะอยู่ในโถที่ 1, ส่วนทีมอันดับ 11-20 จะอยู่ในโถที่ 2, ไล่เรียงไปในโถที่ 3, 4 และ 5 ส่วนทีมในโถที่ 6 จะมี 5 ทีม
จากนั้นทีมในแต่ละโถจะถูกจับสลากลงไปอยู่ในกลุ่ม A-J ไล่จากโถที่ 1 ไปยังโถสุดท้าย จนได้ทีมครบถ้วน ทั้งหมดมีดังนี้
โถที่ 1 : เบลเยียม, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, โปรตุเกส, สเปน, อิตาลี, โครเอเชีย, เดนมาร์ก, เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์
โถที่ 2 : สวิตเซอร์แลนด์, เวลส์, โปแลนด์, สวีเดน, ออสเตรีย, ยูเครน, เซอร์เบีย, ตุรกี, สโลวาเกีย, โรมาเนีย
โถที่ 3 : รัสเซีย, ฮังการี, ไอร์แลนด์, สาธารณรัฐเช็ก, นอร์เวย์, ไอร์แลนด์เหนือ, ไอซ์แลนด์, สกอตแลนด์, กรีซ, ฟินแลนด์
โถที่ 4 : บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, สโลวีเนีย, มอนเตเนโกร, มาซิโดเนียเหนือ, แอลเบเนีย, บัลแกเรีย, อิสราเอล, เบลารุส, จอร์เจีย, ลักเซมเบิร์ก
โถที่ 5 : อาร์เมเนีย, ไซปรัส, หมู่เกาะแฟโร, อาเซอร์ไบจาน, เอสโตเนีย, คาซัคสถาน, โคโซโว, ลิทัวเนีย, ลัตเวีย, อันดอร์รา
โถที่ 6 : มอลตา, มอลโดวา, ลิกเตนสไตน์, ยิบรอลตาร์, ซานมาริโน
สำหรับการจับสลาก มีกฎพิเศษ ดังนี้
1. เบลเยียม, ฝรั่งเศส, อิตาลี และสเปน จะได้สิทธิ์อยู่ในกลุ่ม A ถึง E ที่มี 5 ทีม เนื่องจากทั้งหมดต้องแข่งขันในรอบไฟนอล โฟร์ ของศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
2. ทีมที่มีความขัดแย้งระหว่างประเทศ จะไม่สามารถอยู่กลุ่มเดียวกันได้ ดังนี้ คือ อาร์เมเนีย/อาเซอร์ไบจาน, ยิบรอลตาร์/สเปน, โคโซโว/บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, โคโซโว/เซอร์เบีย, โคโซโว/รัสเซีย, ยูเครน/รัสเซีย
3. ทีมที่มีระยะการเดินทางระหว่างกันไกลเกินมาตรฐานที่กำหนด อยู่กลุ่มเดียวกันเกิน 1 คู่ไม่ได้
4. ทีมที่มีความเสี่ยงต้องเผชิญภัยหนาว 10 ประเทศ ที่จะถูกจับสลากมาอยู่ในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เกิน 2 ทีม ประกอบด้วย เบลารุส, เอสโตเนีย, หมู่เกาะแฟโร, ฟินแลนด์, ไอซ์แลนด์, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, นอร์เวย์, รัสเซีย และยูเครน ขณะที่สองประเทศที่มีความเสี่ยงภัยหนาวสูงสุด คือ ไอซ์แลนด์ และหมู่เกาะแฟโร จะไม่ถูกจับสลากมาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน
รอบแรก จะมีโปรแกรมแข่งขันทีมละ 8 หรือ 10 นัด ดังนี้
นัดที่ 1 24–25 มีนาคม 2021
นัดที่ 2 27–28 มีนาคม 2021
นัดที่ 3 30–31 มีนาคม 2021
นัดที่ 4 1–2 กันยายน 2021
นัดที่ 5 4–5 กันยายน 2021
นัดที่ 6 7–8 กันยายน 2021
นัดที่ 7 8–9 ตุลาคม 2021
นัดที่ 8 11–12 ตุลาคม 2021
นัดที่ 9 11–13 พฤศจิกายน 2021
นัดที่ 10 14–16 พฤศจิกายน 2021
รอบรองชนะเลิศ 24–25 มีนาคม 2022
รอบชิงชนะเลิศ 28–29 มีนาคม 2022
This website uses cookies.