Football Sponsored

ฟุตบอลโลก-ยูโร จัดทุก 2 ปี ส่วนสโมสรแข่งเดือน มี.ค.-พ.ย. แนวคิดปฏิวัติวงการฟุตบอลจาก อาร์เซน เวนเกอร์

Football Sponsored
Football Sponsored

อาร์เซน เวนเกอร์ ตำนานวงการลูกหนังชาวฝรั่งเศส เสนอแนวคิดในการปฏิวัติวงการฟุตบอลให้เข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการปรับปฏิทินการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรให้เริ่มในเดือนมีนาคมและจบที่เดือนพฤศจิกายน เพื่อจะกรุยทางไปสู่การจัดฟุตบอลโลกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) ได้ทุก 2 ปี

เวนเกอร์ซึ่งปัจจุบันนั่งแท่นเป็นหัวหน้าแผนกพัฒนาฟุตบอลของโลกในสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ FIFA ได้เสนอแนวคิดดังกล่าวในระหว่างการจัดรายการทางสถานีโทรทัศน์ beIN SPORTS โดยเชื่อว่าการปรับปฏิทินฟุตบอลใหม่จะเป็นผลดีต่อวงการฟุตบอล

“มันเป็นความฝันของผม” เวนเกอร์ในวัย 71 ปีกล่าว “ผมมีข้อได้เปรียบจากการเคยทำงานที่ญี่ปุ่น (กับสโมสรนาโงยะ แกรมปัส เอต) เราเล่นในเดือนมีนาคมจนถึงเดือนพฤศจิกายน และมันก็สมบูรณ์แบบมาก ไม่ต้องมีการมาบอกว่าเขาได้แชมป์ในฤดูกาล 2018-19 เพราะจะมีแชมป์ในปี 2018 หรือ 2019 และในปี 2020 ไปเลย มันทำให้ทุกอย่างเรียบง่าย การเบรกในช่วงฤดูร้อนนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยที่ฟุตบอลยังไม่เป็นกีฬาอาชีพ มันตั้ง 100 ปีกว่ามาแล้ว”

“ที่ FIFA ประธานจานนี อินฟานติโน ได้พยายามที่จะมีการคุยกับฝ่ายต่างๆ ในเกมฟุตบอลเพื่อที่จะบริหารจัดการปฏิทินการแข่งขันแบบใหม่ เพราะเราจะต้องวางแผนในอนาคตที่เราอาจจะต้องเดินทางกันน้อยลง”

ตามแผนของเวนเกอร์ การแข่งขันฟุตบอลโลกและฟุตบอลยูโรจะจัดขึ้นในช่วงปลายปีของปฏิทินการแข่งขัน ซึ่งจะเกิดขึ้นในปี 2022 ที่ฟุตบอลโลกจะมีขึ้นที่ประเทศกาตาร์ และเชื่อว่าฟุตบอลโลกและฟุตบอลยูโรควรจะจัดขึ้นทุก 2 ปี โดยให้เริ่มแข่งในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี

“ผมอยากให้ทุกคนเชื่อว่าการจะทำให้ปฏิทินการแข่งขันของโลกเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้นนั้นจะต้องมีคนเสียสละ และนั่นหมายถึงยุโรปหรือส่วนอื่นของโลก การทำเช่นนั้นจะทำให้ทุกอย่างเรียบง่ายขึ้น

“ทุกวันนี้ช่องว่างระหว่างยุโรปกับภูมิภาคอื่นของโลกกว้างมาก และการที่จะทำให้มีชาติที่ได้เข้าร่วมแข่งฟุตบอลโลกมากขึ้นจะช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลของประเทศเล็กๆ เพราะพวกเขาจะมีโอกาสที่จะได้เล่นในระดับโลก”

“สำหรับทีมที่แข่งฟุตบอลโลก ค่าเฉลี่ยอายุจะอยู่ที่ 27-28 ปี และนั่นเป็นเหตุผล (ที่อยากให้มีจัดแข่งทุก 2 ปี) โอกาสจะคว้าแชมป์อีกครั้งจึงมีน้อยเพราะเมื่อพวกเขากลับมาอีกครั้งในฟุตบอลโลกครั้งหน้าจะอายุ 32 หรือ 33 แล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เราควรจะจัดฟุตบอลโลกทุก 2 ปี เช่นเดียวกับฟุตบอลยูโรทุก 2 ปี แล้วตัดการแข่งขันรายการอื่นออกให้หมด จัดเฉพาะรายการที่สำคัญจริงๆ”

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • https://www.thetimes.co.uk/article/arsene-wenger-wants-season-to-be-held-march-november-0zn2l5fgt
  • https://www.bbc.com/sport/56418718

ABOUT THE AUTHOR
เมธา พันธุ์วราทร

เจ้าของนามปากกา ‘ลูกแม่กิ่ง’ คอลัมนิสต์ที่เล่าเรื่องกีฬาให้คนนำไปปรับใช้ในชีวิต ซึ่งจะทำให้ได้รับแรงบันดาลใจจากกีฬาที่คุณชื่นชอบ ในคอลัมน์ ‘Goal of Life’

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.