Football Sponsored

เอริก เทน ฮาก เต็งหนึ่งคุมผีแดง – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

“ข่าวใหญ่” ช่วงฟีฟา เดย์ ไม่ใช่บอลโลกรอบคัดเลือกกลับเป็น “นายใหม่” ของปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

    ชื่อ เอริก เทน ฮาก โดดเด่นเป็นสง่าล่าสุดเมื่อแทบลอยด์ ที่ไม่ใช่เจ้ากรมข่าวลืออย่าง เดลี เมล​ เดอะ มีร์เรอร์ ต่างพากันเปิดเผยว่าทีมบริหารของ “ปีศาจแดง” เชิญ เทน ฮาก โค้ชแชมป์บอลดัชท์ ลีก กับอาแจ็กซ์ ที่พึ่งตกรอบชปล.ไปหมาด มาสัมภาษณ์จนหมดเปลือก

    ที่เหลือมีลิสต์รายชื่อทั้ง ฆูเล็น โลเปเตกี อดีตโค้ชทีมชาติสเปนที่ทำ เซบีญา ลุ้นแชมป์ ลา ลีกา , เมาริซิโอ โปเชตติโน และ หลุยส์ เอ็นริเก้ จะทยอยตามคิวมาให้สัมภาษณ์งาน

    รายหลังสุดอย่าง เอ็นริเก้ นั้นก็ดูจะคร่อมจังหวะไปหน่อยนะครับเพราะเขายังมีสัญญาคุมทีมชาติสเปนจนหมดบอลโลก 2022 ซึ่งบอลโลกเตะช่วง พ.ย. และ ธ.ค. นี้ ถ้าจะคุมแมนฯยูไนเต็ด มันก็ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ มิ.ย. เป็นต้นไป
ทำสอง จ๊อบ ไหวมั้ยนั่น 

    ดูแปลกๆอยู่นะครับ

    หลายท่านที่ไม่ได้ตามบอลดัชต์ ลีก ก็อาจได้เสพสื่ออังกฤษที่นำเสนอเรื่องราวของ เทน ฮาก กันไปแตกต่างมุมมอง ส่วนตัวของผมได้มีโอกาส “บรรยาย” ฟุตบอลตัตซ์ลีกหรือ  Eredivisie ทาง 3BB SportOne  เครือโมโน29 สองฤดูกาลล่าสุด พอจะเห็นฝีไม้ลายมือเขาอยู่บ้าง คงได้วิเคราะห์จากจุดนั้นด้วย

    มาว่ากันถึงข่าวที่หลุดออกมาตามแทบลอยด์ของอังกฤษ ซึ่งเวลานี้สื่อหลักลงข่าวหมดเกาะอังกฤษแล้วว่า เทน ฮาก มาสัมภาษณ์งานที่ แคร์ริงตัน ศูนย์ฝึกซ้อมของแมนฯยูไนเต็ด เนื้อข่าวก็ไม่มีรายละเอียดอะไรมากมาย นอกจากกระบวนการสรรหา ผ.จ.ก. คนใหม่ของ “ปีศาจแดง” ต้องผ่านมือ จอห์น เมอร์เท่อห์ ผู้อำนวยการฟุตบอลและ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ ผู้อำนวยการเทคนิคของสโมสร 

    ข่าวบอกสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว….บางสื่อบอกว่า “เต็งหนึ่ง” คุมผีซีซั่นต่อไป

    ตัวกลางอีกคนที่ต้องพูดคุยคือ ผ.จ.ก. ส่วนตัวของเขา คีส โวส ซึ่งมีบริษัทดูแลสิทธิประโยชน์นักกีฬาชื่อ  Sports Entertainment Group  แฟนผีน่าจะจำกันได้ว่า โวส คือเอเจนต์ ที่ดึง โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์ มาจากอ้อมอกอาร์เซนอลนั่นแหละครับ

    โดยสัญญาทั้งหมดนั้นจะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นเดือนเม.ย. ด้วยเพราะ เทน ฮาก ยังเหลือสัญญากับ อาแจ็กซ์ อีกหนึ่งฤดูกาล (หมด30 มิ.ย.2023) ดังนั้นคงต้องมีเงิน “ชดเชย” คืนให้กับอาแจ็กซ์ไปก้อนหนึ่ง เดลี เมล ระบุ 4 ล้านปอนด์ 

    โดยเชื่อว่าทีม ยักษ์ใหญ่บอลฮอลแลนด์ ไม่น่าจะมาขวางทางอะไร เทน ฮาก คงไม่เกี่ยวกับการที่พวกเขามี เอ็ด วิน ฟาน เดอ ซาร์  ซีอีโอของสโมสร นะครับ แม้สื่อพยายามโยงในฐานะเด็กเก่าในตำนานผู้รักษาประตูชุดเจ้ายุโรปปี 2008 ก็ตาม

    ถ้าประกาศชื่อ เทน ฮาก เมื่อไหร่ ก็เท่ากับจุดสิ้นสุดของ ราล์ฟ รังนิกอย่างเป็นทางการเมื่อนั้น

    ว่าด้วยเอริก เทน ฮาก

     สมัยเป็นนักเตะ เทน ฮาก เล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟ ยุค 90 ไม่เคยเล่นทีมใหญ่ เริ่มจาก ทเวนเต้ ทีมประจำเมืองเอนเชเดอ ก่อนย้ายไป เดอ  กราฟชาป, อาร์เคซี วัลไวค์, อูเทรคต์ ก่อนแขวนสตั๊ดที่ทีมเก่าของตัวเอง ทเวนเต้ หลังจากผ่านการอบรมโค้ชระดับโปร ไลเซนส์ แล้ว เริ่มต้นทำงานกับทีมเยาวชนทเวนเต้ ยู17,19 ก่อนขึ้นผู้ช่วยผู้จัดการทีม เขาทำงานกับโค้ชใหญ่หลายคน 

    จากเฟรด รุตเตน  ถึง สตีฟ แมคลาเรน อดีตมือขวา เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันชุด “ทริปเปิลแชมป์” 1999  โดยเทน ฮาก ทำงานกับ แมคลาเรนแค่ปีกว่าๆ ก่อนย้ายตามเป็นผู้ช่วย รุตเตนที่ได้งานกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ซึ่งปีต่อมา แมคลาเรน พา ทเวนเต คว้าแชมป์ ดัตซ์ลีก 

    จากชีวิตเบอร์2 ขึ้นแท่นเป็นโค้ชใหญ่กับ โก อเฮด อีเกิลส์ แค่หนึ่งปี ก่อนถอยไปคุมทีมสำรองบาเยิร์น มิวนิค ฤดูกาล 2013-15 มันเหมือนเขาไปฝึกฝีมือกับทีมเสือใต้ด้วยส่วนหนึ่ง ตอนนั้น  เป็ป กวาร์ดิโอล่า คือโค้ชใหญ่เสือใต้ มีการทำรายงานพิเศษกันหลายสื่อว่าเขาเหมือนมาเรียนรู้และพยายามเล่นบอลสไตล์ เป๊ป 

    ได้วิชาแก่กล้าจึงมาคุม อูเทรค เต็มตัวสองฤดูกาล

    ซีซั่นแรก 2015-16 พาทีมจบอันดับ5  นักเตะตัวเก่งของเขาชุดนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เซบาสเตียน ฮัลแลร์ ดาวยิงอาแจ็กซ์ คนปัจจุบันนั่นแหละ ซีซั่นต่อมาจบอันดับ 4 โดย อาแจ็กซ์ เสียแชมป์ให้ เฟเยนูร์ด แถม ปีเตอร์ บอส โค้ชที่พาทีมแพ้ โชเซ มูรินโญ ในยูโรปา ลีก นัดชิงกับแมนฯยูไนเต็ด ได้งานใหม่ที่ ดอร์ทมุนด์  ทีมอาแจ็กซ์ ต้องการโค้ชเลือดใหม่ไฟแรง จึงดึงตัว เอริก เทน ฮาก มาคุมทีมตั้งแต่ปี 2017 จนสัญญาฉบับสิ้นสุด 30 มิ.ย. 2023 

    รูปแบบและผลงาน

    ตามธรรมชาติทีมใหญ่บอลดัชท์ ระบบ 4-3-3 เหมือนพิมพ์นิยม นับจาก รินุส มิเชล เจ้าของฉายา “นายพลลูกหนัง” สร้างอาแจ็กซ์ และทีมชาติฮอลแลนด์จนยิ่งใหญ่ระดับโลกยุค 70 ต่อด้วย โยฮัน ครัฟฟ์ “เทวดาลูกหนัง” ผู้ยิ่งใหญ่ ที่นำมาใช้กับบาร์เซโลนา ปฏิรูป ลา มาเซีย ศูนย์บอลเยาวชนบาร์ซา จนสุดยอด เพราะมีทายาทของเขาเดินตามจนยิ่งใหญ่ไม่แพ้นาย คนล่าสุด ผมรอดู ชาบี เอร์นานเดส ครับ ยอดกองกลางตัวกลั่นคนนี้มีของ…

    โอเค 4-3-3 ยังคงใช้เล่นกันแค่ดัดแปลงรายละเอียดเท่านั้น โดย เทน ฮาก ก็ใช้กับ อาแจ็กซ์ ตลอด 4-5 ปีที่ทำงาน ทว่าเขาก็เริ่มต้นในฐานะ “รองแชมป์” ซีซั่นแรกที่คุมทีมแพ้ พีเอสวี ไป4 แต้ม แต่ช่วง6 เดือนแรกก็หนักพอดู โดนวิจารณ์เละเทะ  แต่ผลงานในช.ป.ล ไปได้ดี เสียงวิจารณ์เลยเงียบ พอจับจังหวะซีซั่นต่อมาก็พา อาแจ็กซ์ คว้าแชมป์ ดัชท์ลีก จนได้ ทิ้งพีเอสวี สามแต้ม 

    อะไรคือการเปลียนแปลงนำสู่แชมป์

    การซื้อทีดี …..เทน ฮาก ได้ ดูซาน ทาดิช ปีกซ้ายจากเซาธ์แฮมป์ตัน นี่คือตัวจักรสำคัญเลยทีเดียว เขาเล่นได้ทั้งตัวในและตัวข้าง ดูแน่นอนกว่า จัสตัน ไคลเวิร์ต ลูกชาย พาทริก ไคลเวิร์ต ทางซ้าย 

    แดนกลางยังมีทั้ง แฟร้งค์กี เด ยอง, ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค , ฮาคีม ซีเย็ค คือหัวใจแนวรุก มิดฟิลด์ตัวรับคือ ลาส เชิน  ในหลายเกม แฟร้งค์กี ไปยืนเซนเตอร์กับ มาไธจ์ เดอ ลิกต์ 

    ตัวทำข้างหน้า คาสเปอร์ โดเบิร์ก ดาวยิงทีมชาติเดนมาร์​ก กับ ตัวเก๋า คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ (ตอนนี้โดนดึงกลับมาเป็นทีมเทคนิค) 

    แนวรับ เดอลิกต์ , ดาวินซอน ซานเชส (สเปอร์สปัจจุบัน), โวเบอร์, ตายาฟิโก (แบ๊กซ้ายทีมชาติอาร์เจนตินา)  รวมทั้ง ดาเลย์ บลินด์ ที่กลับไปจากแมนฯยูไนเต็ด 

    ประตูจอมหนึบ โอนานา (ปีก่อนโดนแบน7-8 เดือนเรื่องใช้สารกระตุ้น)

    ที่สำคัญ…เทน ฮาก ปรับระบบการเล่นมาเป็น 4-2-3-1 ใช้ “หน้าปลอม” คือ ทาดิช ยืน ผลคือยิงระเบิดเถิดเทิง มีสามกลางรุก ซีเย็ค, ฟานเดอ เบ็ค (กลางรุก) และ ดาวิด เนเรส ปล่อยให้กองกลางตัวรับ เชิน กับ เดอ ยอง รับงานไป 

    จากนั้นเครื่องติดแชมป์ดัชท์ ลีก อีกครั้งคือปีล่าสุด ปีโควิด ไม่นับแชมป์ 

    ที่สำคัญแม้เสียตัวดีๆออกไป ซีเย็ค ไปเชลซี, ฟาน เดอ เบ็ค มาแมนฯยูฯ, เดอ ลิกต์ ไปยูเวนตุส, แฟร้งค์กี เดอ ยอง ไปบาร์เซโลนา ทีมของ เทน ฮาก ไม่แกว่งมีตัวแทนถูกดันและซื้อเข้ามาสร้างผลงานได้อีก 

    กองหลังวันนี้มี ลิซานโดร มาร์ติเนส ที่ติดทีมชาติอาร์เจนติน่าไปแล้ว ยืนเซนเตอร์กับ ดาวรุ่งที่ดันขึ้นมาอย่าง ยูเลียน ทิมเบอร์ (เบียด แปร์ สกูร์ สำรอง) แดนกลาง อัลบาเรส ตัวทีมชาติเมกซิโก กับ เด็กดาวรุ่ง ไรอัน กราเวนเบิร์ก ที่สื่อดัตซ์เรียก “ไรจ์การ์ดสอง” ดาวี คลาเซน,  มีปีกตัวคล่องอย่าง อันโทนี นี้ก็ติดทีมชาติบราซิลไปแล้ว  หน้าเป้าก็ ฮัลแลร์ ที่ซื้อจากเวสต์ แฮม ตลาดมกราคมปีก่อน…

    เขาสร้างทีมใหม่ทดแทนทีมเก่าด้วยการ “ดันทีมเยาวชน” และ “ซื้อเสริม”

    เทน ฮาก ผู้ยืดหยุ่น

    จุดหนึ่งที่เขาพิสูจน์ตัวเองได้ดีคือความยืดหยุ่นในการทำงาน ไม่ยึดติดกับรูปแบบของตัวเองมากไป แม้ว่าระบบการเล่นหลักคือ 4-3-3 เขาสามารถปรับมาเล่น 4-2-3-1 หรือแม้กระทั้ง 4-2-1-3 ตามหน้างาน ตามฟอร์มของนักเตะและคู่แข่งขัน

    อย่างซีซั่นนี้ทีมไปดึงตัว สตีเวน เบิร์กเฮาส์ มาจาก เฟเยนูร์ด คู่ปรับตลอดกาล ส่งผลให้การแย่งตำแหน่งกลางตัวรุกในทีมมีมาก เจ้าของที่ คลาสเซน โดนเบียดเป็นตัวสำรอง เพราะ เบิร์กเฮาส์ เล่นปีกขวาช่วงอยู่กับ เฟเยนูร์ด (เคยมาเล่นกับวัตฟอร์ดพักหนึ่ง) พอมาเล่น อาแจ็กซ์ เขาถูก เทน ฮาก จับเล่นกลางตัวรุก โดยมี อัลบาเรส และ กราเวนเบิร์ก คุมกลางรับคู่ ปีกขวา อันโทนี ปีกซ้าย ทาดิช หน้าเป้า ฮัลแลร์

    เกมรับ บลินด์, มาร์ติเนส, ทิมเบอร์ และ มาสซานสอุย ตัวทีมชาติโมรกอกโก ที่บุกมันมาก

    ดูเหมือนบอลของ เทน ฮาก ใช้ปีกเดินเกมและกลางรุก แต่ความจริงแล้ว เขาใช้คู่เซนเตอร์ช่วยเดินเกมรุกบ่อย เพราะเวลาเล่นกับ 15-16 ทีม ใครเจออาแจ็กซ์ ก็จอดรถบัสทั้งนั้น ข้างหน้าจะโดนจำกัดพื้นที่ จึงต้องมีตัวช่วยจาก มาร์ติเนส, ทิมเบอร์  เด่นคนละแบบ มาร์ติเนส วางบอลยาวแม่น ส่วน ทิมเบอร์ได้ความคล่องตัว เลี้ยงจะลุยกินแดนขึ้นไป เขาเคยเล่นแบ๊กขวามาก่อน  

    เวลารุก….อาแจ็กซ์จะมีตัวรุกขึ้นไปใส่กับพวกรถบัส 4-5 คน 

    ทาดิช, ฮัลแลร์, เบิร์กเฮาส์, อันโทนี โดยมี กราเวนเบิร์ก สอดขึ้นไปช่วยเกมรุก และแบ็กสองข้างพร้อมเติม

    ถามว่าจุดบอดมีมั้ย…ก็แน่นอนครับ บอลสไตล์รุกอย่างอาแจ็กซ์ ดันสูงแบบนั้น โดนสวนกลับมาตลอด และหากคู่แข่งเล่นเกมรับลงล็อค จนอาแจ็กซ์ ทำอะไรไม่ได้ ขอจังหวะสวนกลับเหมาะๆ ก็ชนะได้หลายเกมเหมือนกัน 

    ซีซั่นนี้ อาแจ็กซ์ แพ้ 3 นัด ไม่แพ้ทีมใหญ่ ทีมลุ้นแชมป์นะครับ แพ้ อัล์คมาร์, อูเทรคต์ ที่เจ็บแสบแพ้เกมสวนกลับ โก อเฮด อีเกิ้ลส์ ซะอย่างนั้น 

    ณ วันนี้ เทน ฮาก พาทีมอาแจ็กซ์ นำ พีเอสวี ของ โรเจอร์ ชมิดท์ โค้ชเยอรมันที่ทำงานปีสุดท้าย แค่สองแต้ม ไม่รู้ว่าข่าวนี้ออกมาจะทำให้อาแจ็กซ์ สั่นไหวหรือไม่ ถ้าหากพลาดท่าโดน พีเอสวี แซงคว้าแชมป์… คงเสียรังวัดพอสมควร

    ถึงจุดนี้ คงได้ความชัดเจนระดับหนึ่งแล้วว่า บอร์ดบริหาร แมนฯยูไนเต็ด กำลังทำงานอย่างเร่งรีบในการหา ผ.จ.ก. คนใหม่แบบถาวรมาทำหน้าที่ในฤดูกาลหน้า แล้วต้องได้ตัวโดยเร็ว มีกรอบเวลาที่สิ้นเดือนเม.ย.  นั่นเท่ากับนายใหม่มีเวลาเตรียมตัวนานจนถึงช่วงพรีซีซั่น 

    เมื่อได้นายใหม่แล้ว…เรื่องต่อไปที่ต้องทำเร่งด่วนคือ “สภาพทีม”

    มีข่าวหลุดออกมาตามสื่ออังกฤษว่า7-8 คน ในชุดนี้คงต้องไป มันถึงเวลา

    ถ้าเราเอามาตรวัดจาก โชเซ มูรินโญ เป็นเกณฑ์ ผมคิดว่า “นักเตะ” แมนฯยูฯ ชุดนี้มีปัญหาครับ ทั้งเรื่อง “ทัศนคติ” และ “ความสามารถ”

    คงไม่ต้องไล่ชื่อว่าใครบ้างที่จะไปจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด เพราะการมาของนายใหม่ เท่ากับ ไอเดีย ใหม่ๆ นักเตะใหม่ๆ เพื่อกำจัดปัญหาที่เกิดขึ้นในมุมมองที่ว่า “สรุป” นักเตะไม่รับไอเดียโค้ชหรือโค้ชไม่มีไอเดียกันแน่

    ความพยายามในการสร้าง “วัฒนธรรม” แมนฯยูฯกลับมาใหม่โดย โอเล กุนนาร์ โซลชา นั้นถูกโยนทิ้งออกไปแล้ว การมาของ เอริก เทน ฮาก หรือใครก็ตามที่จะได้เป็นนายใหม่ของ “ปีศาจแดง” มีโจทย์ยากสุดในชีวิต โดยเฉพาะเป้าหมายใหญ่คือการกลับมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดโดยเร็วที่สุด หรือเป็นทีมแถวหน้าลุ้นแชมป์ทุกรายการเหมือนเมื่อในอดีตให้ได้เร็วที่สุด

    แล้วถ้าถามผมในฐานะที่บรรยาย “ดัตซ์ลีก” …ว่า เอริก เทน ฮาก เหมาะสมกับภาระกิจอันหนักอึ้งนี้ได้มั้ย 

    ผมไม่แน่ใจครับ เพราะดัตซ์ ลีก ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนพรีเมียร์ลีก ทั้งแง่คุณภาพนักเตะ, จำนวนนัดที่น้อยกว่า, ความกดดันที่แตกต่าง 

    บุคลิกภาพของ เทน ฮาก นั้นค่อนข้างเงียบๆ ที่ฮอลแลนด์ เรียกเขาว่า  “shy farmer” ชาวนาขี้อาย…การคุมทีมใหญ่ระดับผีแดง “บุคลิกภาพ” ยิ่งสำคัญ 

    กระนั้นมันก็ยังมีประตูที่ไม่ได้ปิดตายอยู่ซะทีเดียว ถ้าให้ “เวลา” ในการสร้างงานของเขา มันก็ไม่แน่เหมือนกัน 

    เพียงแต่ สาวกปีศาจแดงและสื่ออังกฤษ “รอ” การสร้างงานได้นานขนาดไหน

    ถ้าถามผมนะครับ…หากไม่อยากรอการสร้างงาน….แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชั่วโมงนี้ มีแค่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า,​เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่พอจะทำให้สมหวังในเป้าหมายได้เร็วกว่าโค้ชคนอื่นๆ แน่นอน 

Jackie

ข้อมูลบางส่วนจาก…
 Daily Mail
The Mirror
The Telegraph
The Times
BBC
Skysports 

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.