Football Sponsored

อกหักไม่เข็ด สิงคโปร์จะไปบอลโลก

Football Sponsored
Football Sponsored

สมาพันธ์ฟุตบอลสิงคโปร์(FAS) จับมือกับกระทรวงวัฒนธรรมชุมชนและเยาวชนและกระทรวงการศึกษา ในการพัฒนาฟุตบอลเยาวชนในประเทศเพื่อเป้าหมายฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2034 หรืออีก 13 ปี ข้างหน้า โดยจะเร่งยกระดับความสามารถของนักกีฬาในระดับเยาวชนให้สูงขึ้นด้วยผู้ฝึกสอนที่มีคุณภาพและเพิ่มจำนวนตัวเลือกของผู้เล่นในประเทศให้มีจำนวนที่มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

    ทางด้านของ เบอร์นาด ตัน รองประธานสมาพันธ์ฟุตบอลสิงคโปร์(FAS) เผยถึงโครงการนี้ว่า เป้าหมายนี้ถือว่าเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญถ้าเราสามารถสร้างระบบพื้นฐานได้ รวมไปถึงการมีส่วนร่วมของแฟนบอลเมื่อเข้าสนามแข่งขันก็จะมีนักเตะอีกหลายคนที่มาจากครอบครัวต่างๆ  แน่นอนว่าเราไม่ได้มองหาเป้าหมายฟุตบอลโลกอย่างเดียวเรากำลังมองหาเส้นทางที่ยั่งยืนการยกระดับทีมชาติแบบมีโครงสร้าง จะมีมีหลักสูตรการเล่นฟุตบอลแบบครบวงจรรวมถึงการให้เด็ก ๆ ที่มีอายุระหว่าง 6 ถึง 12 ปีข้าสู่โรงเรียนฟุตบอลได้มากขึ้นอีกทั้งยังมีการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงาน เราต้องการให้มีนักเตะประมาณ 250 คนต่อกลุ่มประชากรตามรุ่น 1,000 คน เพื่อนำไปฝึกฝนอย่างเข้มข้น

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สิงคโปร์ตั้งเป้าหมายที่จะลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ในปี 1998 สิงคโปร์ เคยผุดไอเดีย  Goal 2010 เพื่อโอกาสฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จพร้อมกับถูกลืนหายไปด้วยความล้มเหลวที่เกิดขึ้น  แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวโครงการนั้นก็ทำให้สิงคโปร์ก้าวขึ้นมาผงาดเป็นแชมป์ระดับภูมิภาคถึง 4 สมัย 1998,2004,2007 และ 2012 ในรายการไทเกอร์คัพ หรือชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.