Football Sponsored

แอนฟิลด์ไร้มนต์ขลัง

Football Sponsored
Football Sponsored

ย้อนกลับไปปีที่แล้วถ้าหากบอกว่าทีมอย่างลิเวอร์พูลจะแพ้ในบ้าน 5 นัดติดหลายคน คงอยากจะหัวเราะจนฟันหัก เพราะแทบจะ เป็นไปไม่ได้เลย

มันกลับเป็นไปได้ในซีซันนี้แบบไม่น่าเชื่อ!!

ก่อนหน้านี้ “หงส์แดง” ลงเล่นในบ้าน

ไม่แพ้ใครมา 68 นัดติดต่อกันแล้ว

แต่หลังจากนับหนึ่งในการพ่ายในบ้านต่อ เบิร์นลีย์ 0-1 มันก็มีเกมที่สองสามและสี่ตามมา

การแพ้ 4 นัดติดก็ว่าย่ำแย่แล้ว แต่การแพ้ต่อเชลซี เมื่อคืนวันพฤหัสบดีไป 0-1

ทำให้เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือชาวเยอรมันพร้อมลูกทีมสร้างประวัติศาสตร์แพ้ 5 นัดติด

ในบ้านเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ย่ำแย่ที่สุดของ “หงส์แดง” จริงๆ

เอาเข้าจริงๆ แม้ด้วยสภาพทีมที่ขาดแคลนกองหลังหรือตัวเจ็บบานเบอะขนาดนี้ก็ยังไม่คิดว่าจะแพ้รวดถึง 5 นัดแบบนี้

เพราะขุมกำลังที่เหลืออยู่ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรเลย

แถมแนวรุกอย่างโมฮัมเหม็ด ซาลาห์,

โรแบร์โต ฟีร์มิโน และซาดิโอ มาเน ที่ยิงกันกระจายในฤดูกาลที่แล้วก็อยู่กันพร้อมหน้า

แม้ว่าแนวรับจะรั่วขนาดไหน แต่หากแนวรุกยังยิงได้ก็น่าจะช่วยทีมได้เยอะกว่า

แต่กลับกลายเป็นว่าทั้ง 3 นัดกันปืนฝืดแบบไม่น่าเชื่อ

อีกส่วนหนึ่งที่ผู้เขียนคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันที่ทำให้ “หงส์แดง” พ่ายแพ้คารังแบบนี้ ถึง 5 นัดติดต่อกัน

นั่นก็คือบรรดา “เดอะ ค็อป” ทั้งหลายไม่ได้อยู่ในสนามนั่นเอง

ก่อนหน้านี้ไม่ว่าฟอร์มของ “หงส์แดง” จะย่ำแย่มากขนาดไหน แต่เมื่อมีเสียงเชียร์และได้ยินเสียงเพลง ยูวิลเนเวอร์วอล์กอะโลน (You’ll never walk alone) เมื่อไรก็จะมีแรงฮึดสู้

อยู่เสมอและก็สามารถพลิกเกมจากตามหลัง

กลับมาชนะได้นักต่อนักแล้ว

ซึ่งเรียกได้ว่าบรรดาเดอะ ค็อป คือผู้เล่นคนที่ 12 ของสโมสรโดยแท้จริง

อันนี้หลายคนอาจจะดูว่าเว่อร์ แต่มันคือเรื่อง จริงจากการได้ไปสัมผัสมาด้วยตัวเองที่สนามแอนฟิลด์

บอกตรงๆว่า สาวก “หงส์แดง” นี่แหละเชียร์มันส์อย่างสุดๆอย่างที่เค้าร่ำลือจริงๆ

ร้องเพลงและส่งเสียงเชียร์กันตั้งแต่ต้นยันจบ แม้ว่าจะโดนนำห่างแค่ไหนเสียงเชียร์กับเพลง

ก็ไม่เคยเงียบลงเลยแม้แต่นิดเดียว

จึงเรียกได้ว่าเสียงเชียร์ที่หายไปในแอนฟิลด์นั้นเหมือนทำให้แข้ง “หงส์แดง” ขาดยากระตุ้นชั้นดี

ก่อนหน้านี้เมื่อถูกนำบรรดา “เดอะ ค็อป” ก็ตะโกนเร่งเร้าเต็มที่แข้ง “หงส์แดง” ก็มีแรงฮึดวิ่งตามเสียงเชียร์

แต่ในตอนนี้ลงเล่นในบ้านเมื่อไรก็ได้ยินแต่เสียงซาวด์แทร็กเสียงเชียร์เท่านั้น เมื่อถูกนำ ก็ไร้แรงกระตุ้นให้วิ่งสู้ฟัดไม่เหมือนมีแฟนบอลอยู่ในสนามจริงๆ

ซึ่งมันทำให้แอนฟิลด์หมดมนต์ขลังไป โดยปริยาย

ไม่ใช่แค่แข้ง “หงส์แดง” เท่านั้น บรรดานักเตะทีมต่างๆก็เป็นเหมือนกัน

เตะสนามเปล่าไร้แรงจูงใจแค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้จบๆไปเท่านั้น

“โควิด–19” นอกจากสร้างความปั่นป่วนไปทั่วทั้งโลก

ก็ยังทำให้เกมฟุตบอลไร้เสน่ห์ไปอย่างสิ้นเชิง!!

มะระหวาน

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.