Categories: ฟุตบอลโลก

(ไฮไลท์)’โค้ชปาร์ค’ ยันชัดออสเตรเลียไม่ได้เหนือกว่าเวียดนามตรงไหนเลย – TNN24

กุนซือทัพดาวทอง ยังคงฝีปากสุดยอดเช่นเคย หลังให้สัมภาษณ์หลังเกมแพ้ ออสเตรเลีย 0-1 ในคัดบอลโลก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีม สุดท้ายนัดสอง ยืนยันว่า เวียดนามไม่ได้ห่างชั้นอะไรกับออสซี่เลย มั่นใจทีมขึ้นสู่ระดับท็อปเอเชียแล้ว

วันนี้ (9 ส.ค. 64) ปาร์ค ฮัง ซอ เฮดโค้ชทีมชาติเวียดนาม ออกโรงคุยโว ฟุตบอลของทัพดาวทองได้ขึ้นมาอยู่ในระดับหัวแถวของทวีปเอเชียแล้ว แม้ว่าจะเปิดบ้านพ่ายแพ้ต่อ ออสเตรเลีย 0-1 ในเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ทำให้ยังไม่มีคะแนนตลอดการลงเล่นสองนัดแรกก็ตาม โดยหลังจบเกมนัดนี้ แฟนบอลก็ยังพากันไปถล่มเฟซบุ๊กของผู้ตัดสินที่ลงทำหน้าที่ในเกมนี้เช่นเดียวกับเมื่อนัดแรก

ทัพดาวทอง ออกสตาร์ทภารกิจคัดบอลโลก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย โดยที่ยังไม่มีแต้มตลอดสองเกมแรก หลังแพ้ต่อ ซาอุดิอาระเบีย ในการไปเยือน 1-3 ก่อนที่จะกลับมาเฝ้ารังแพ้ต่อ ออสเตรเลีย 0-1 เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเกมกับ กุนซือใหญ่อย่าง ปาร์ค ฮัง ซอ ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ พร้อมคุยโว นาทีนี้เวียดนามสามารถขึ้นมาต่อกรกับทีมท็อปเอเชียได้อย่างไม่เป็นรอง

“ไม่มีอะไรต้องเสียใจครับ นักเตะเวียดนามเล่นได้ตามแผนที่ผมต้องการทุกอย่าง เราทำกันอย่างเต็มที่แล้ว เห็นได้ชัดว่า ออสเตรเลีย ก็ไม่ได้แตกต่างกับเวียดนามมากมาย เราเป็นรองในเรื่องร่างกายและความแข็งแร่ง นั่นคือข้อแตกต่างที่สำคัญ ถ้านักเตะเรายืนตำแหน่งกันดีกว่านี้ ประตูที่เราเสีย มันก็อาจจะไม่เกิดขึ้น นาทีนี้เวียดนามไม่ได้ห่างชั้นกับทีมหัวแถวเอเชียอีกแล้ว เราสู้ได้อย่างภาคภูมิใจ” โค้ชปาร์ค กล่าวหลังจบเกม

สำหรับเกมระหว่าง เวียดนาม กับ ออสเตรเลีย ได้เกิดจังหวะปัญหาขึ้นอีกแล้ว เมื่อมีจังหวะผู้เล่นออสซี่ ทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษแต่ผู้ตัดสินดูวีเออาร์แล้วตัดสินใจไม่ให้จุดโทษแก่เวียดนาม ในนาที 28 ก่อนที่เพียงอีกไม่กี่นาทีหลังจากนั้น พวกเขาจะได้ประตูชัย ในช่วงก่อนหมดครึ่งแรก ทำเอาแฟนคลับดาวทองบุกถล่มเฟซบุ๊ก อัลดุลรามาน อัล ยัสซิม เชิ้ตดำในนัดนี้ หลังจากที่ทัพแฟนคลับเคยถล่มผู้ตัดสินในเกมแพ้ ซาอุฯ มาแล้วก่อนหน้านี้เช่นกัน

ไฮไลท์การแข่งขัน

Tags: footballกีฬาถ่ายทอดผลการแข่งขันฟุตบอลฟุตบอลโลกสดแข่งขัน

3 ปี ago

ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง