หลังจากที่ “เดอะแรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี 2 สโมสรตัวแทนของไทยในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 มีความเห็นตรงกันให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม เดือนเมษายน ซึ่งจะต้องยื่นความจำนงให้กับสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้
โดยเอเอฟซีแจ้งว่าประเทศที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม จะได้โอกาสพิจารณาให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ในเดือนมิถุนายน ด้วยเช่นกันนั้น
“โจ” นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า การเรียกทั้งสองสโมสรมาคุยนั้นได้แจ้งถึงขั้นตอนต่างๆ ข้อดี-ข้อเสีย ของการเป็นเจ้าภาพ ซึ่งทั้งสองสโมสรเข้าใจบทบาทของตัวเองแล้ว ตอนนี้สโมสรต้องไปหาตัวเลือกมา จะใช้สนามใดแข่งขัน, สนามซ้อม รวมถึงสนามสำรองสำหรับนัดสุดท้ายที่ต้องแข่งขันพร้อมกัน เพื่อนำมาวางมาตรการ การทำบับเบิลต่างๆ ก่อนที่จะเข้าไปยื่นให้กับทางภาครัฐพิจารณา
พ่อบ้านลูกหนังไทย กล่าวต่อว่า ทั้งสองทีมนั้นมองถึงประโยชน์ของการเป็นเจ้าภาพที่จะไม่ต้องเดินทาง และไม่ต้องกักตัวอีก 14 วันหลังจากเดินทางกลับมา อีกอย่างโอกาสที่ทั้งสองทีมจะจับมือกันใช้ เป็นเจ้าภาพทั้งสองกลุ่มพร้อมกันเลยก็ได้ เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมดมา สมาคมฯ กับไทยลีก ก็จะเข้าไปคุยกับหน่วยงานรัฐ ว่าอีเวนต์แบบนี้มีมาตรการใดบ้าง เอเอฟซีกำหนดแบบไหน ถ้าหากดูแล้วว่าทุกอย่างสามารถเป็นไปได้ ก็จะยื่นเอกสารในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ แต่ถ้ามองแล้วว่าไม่เข้าเกณฑ์ของเอเอฟซี ก็ไม่ส่งเรื่องดีกว่า
นายพาทิศ กล่าวอีกว่า ตอนนี้เวลาเหลืออยู่น้อยมากๆ ในการเตรียมเรื่อง เพราะอาทิตย์หน้าคืออาทิตย์สุดท้าย ดังนั้นทุกฝ่ายจะต้องตื่นตัวกัน การที่เป็นข่าวส่วนหนึ่งก็เพื่อให้ภาครัฐได้รับทราบต้นเรื่องว่าทางสมาคมฯ และสโมสร กำลังจะทำอะไรด้วย เพื่อที่การเข้าไปพูดคุยจะได้มีพื้นฐานอยู่แล้ว ทางไทยลีกเองเคยเข้าไปคุยกับศบค.มาก่อน ก็จะพอรู้ว่าต้องใช้เวลาแค่ไหน และมุมมองของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เป็นอย่างไร อาจจะใช้โมเดลของแบดมินตันเป็นเบื้องต้นได้ แต่ของแบดมินตันทุกอย่างอยู่ในพื้นที่เดียวกันอาจจะทำได้ง่ายกว่า ของฟุตบอลต้องมาดูว่าทำอย่างไรได้บ้าง เบื้องต้นวันที่ 8 กุมภาพันธ์ต้องมีรายละเอียดหมดแล้วว่ามาตรการของเราเป็นอย่างไร เพื่อเข้าไปคุยว่าของรัฐจะเป็นอย่างไร
เลขาสมาคมฟุตบอล กล่าวเสริมว่า จากที่คุยกันทางสโมสรสนใจ ทางสมาคมฯ เองก็สนใจ เพราะว่ามันเกี่ยวข้องกับการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกได้ด้วย ส่วนสโมสรเองก็ไม่ต้องเดินทางไปเป็นเดือนๆ เพื่อทำการแข่งขัน
“ในหนังสือนั้นระบุชัดเจนว่าประเทศที่ได้เป็นเจ้าภาพเอซีแอลจะได้พิจารณาเป็นเจ้าภาพคัดฟุตบอลโลกด้วย ดังนั้นถ้าไทยอยากเป็นเจ้าภาพคัดฟุตบอลโลก เราก็ต้องยื่นอันนี้ให้ได้ ถ้าแค่รายการเอเอฟซียังไม่มีมาตรการที่จัดการแข่งขันได้ เอเอฟซีก็คงไม่เลือกแน่ๆ เพราะว่ามาตรการใกล้เคียงกัน ถ้าไม่ยื่นอันนี้ เดือนมิถุนายนเขาก็ยกให้ชาติที่เคยจัดแชมเปี้ยนส์ลีกมาแล้ว อย่างเช่น จีน หรือญี่ปุ่น สามารถจัดการแข่งขันได้ ก็เอาฟุตบอลโลกไปด้วยเลย เพราะเวลามันห่างกันแค่ 2 เดือนเท่านั้น” นายพาทิศ กล่าว
This website uses cookies.