จากชบาแก้วสู่ช้างศึก! ส.บอล เชิญ “มาดามแป้ง” นั่งผู้จัดการทีมชาติไทย – Goal.com
สมาคมฯ เชิญ มาดามแป้ง นั่งแท่นผู้จัดการช้างศึก ทั้งรุ่น U23 และชุดใหญ่ หลังประสบความสำเร็จมาแล้วกับการนำทัพชบาแก้วไปฟุตบอลโลก
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ทาบทาม “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร การท่าเรือ เอฟซี นั่งแท่นผู้จัดการทีมชาติไทยทั้งรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และ ชุดใหญ่
สมาคมฯถูกวิจารณ์พอสมควร จากผลงานทีมชาติไทยในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการตัดสินใจปลด อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่น ออกจากตำแหน่ง หลังตกรอบ ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ที่ ยูเออี
ล่าสุดมีข่าวลือสมาคมฯหวังกู้ศรัทธาแฟนบอลกลับมาอีกครั้ง ด้วยการเชิญ ‘มาดามแป้ง’ เข้ามานั่งเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย อย่างเป็นทางการ ทั้งรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และ ชุดใหญ่ หลังที่ผ่านมา นวลพรรณ ล่ำซำ เคยพาฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมายในฐานะ ‘ผู้จัดการทีม’ โดยเฉพาะ การสร้างประวัติศาสตร์ ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้ถึง 2 สมัย เมื่อปี 2015 และ 2019
Editor Picks
- โปรแกรมถ่ายทอดสดฟุตบอล – ดูบอลสดคืนนี้ (พรีเมียร์ลีก, ไทยลีก, ลาลีกา, บุนเดสลีกา, แชมเปี้ยนส์ลีก, ฯลฯ)
- TTL Transfers : เกาะติดตลาดซื้อขายนักเตะ โตโยต้า ไทยลีก 2021-22
- ยอดดาวยิง! ใครคือผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก?
- IN NUMBERS : ลิโอเนล เมสซี ยิงได้กี่ประตูในชีวิตค้าแข้ง?
สำหรับ ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี มีโปรแกรมลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบคัดเลือก ที่ มองโกเลีย ระหว่างวันที่ 23-31 ตุลาคม 2564 ส่วน ชุดใหญ่ มีภารกิจทวงแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ กลับมาอีกครั้ง ในช่วงปลายปีนี้
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.