Football Sponsored

เวียดนามตั้งผู้ช่วยซิโก้เป็นทีมงานโค้ชลุยคัดบอลโลกรอบ12ทีม – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

หลังจากที่โค้ช “ปาร์ค ฮัง-ซอ” กุนซือใหญ่ของทัพ “ดาวทอง” ทีมชาติเวียดนาม ได้ประกาศรายชื่อ 31 นักเตะชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 3 หรือรอบ 12 ทีมสุดท้าย เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลงเล่นเกมนัดแรกในรอบแบ่งกลุ่มพบกับ ซาอุดิอาระเบีย ในวันที่ 2 ก.ย.64 นั้น

    ล่าสุด Vn Express สื่อยักษ์ใหญ่ของเวียดนามรายงานว่า ปาร์ค ฮัง-ซอ ต้องการเพิ่มผู้เชี่ยวชาญในทีมชาติ ก่อนจะเริ่มรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกช่วงเดือนกันยายน จึงทำการเสนอชื่อส่งไปยังสหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม (VFF) โดยเลือกโค้ช “คิม มิน-แท” และโค้ช “ปาร์ค ชุง-คยุน” เข้ามาเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนในครั้งนี้ ซึ่งทั้งคู่ทำงานอยู่ในสโมสรของเวียดนามอยู่แล้ว

     โดยปาร์ค ชุง-คยุน ปัจจุบันเป็นเฮดโค้ชของ ฮานอย เอฟซี เขาจะทำงานเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนของ ปาร์ค ฮัง-ซอ เป็นเวลา 3 เดือน ก่อนจะกลับไปที่ฮานอย ขณะที่ คิม มิน-แท จะเข้ามาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูลของทีม ซึ่งเขาทำงานในเวียดนามมาตั้งแต่ปี 2018 ในตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชให้กับสโมสรวีลีกอย่าง โฮจิมินห์ ซิตี้ และปี 2019 จะย้ายมาเป็นผู้ช่วยโค้ชฮองอันห์ ยาลาย มาถึงปัจจุบันในยุคของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นั่นเอง

     ทั้งนี้ในรายของ คิม มิน-แท เพิ่งจะเรียนหลักสูตรจบโค้ชในระดับ AFC A license มาหมาดๆ โดยทาง “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ของสโมสรฮองอันห์ ยาลาย ทีมจ่าฝูงในศึกวีลีก 2021 ประเทศเวียดนาม ก็ได้ร่วมแสดงความยินดีกับ คิม มิน-แท ที่เรียนจบโค้ชในครั้งนี้ด้วย ก่อนจะถูกปาร์ค ฮัง-ซอ ยืมตัวไปเป็นผู้ช่วยโค้ชในทีมชาติเวียดนาม ลุยบอลโลกรอบคัดเลือกที่กำลังจะถึงนี้

    นอกจากนี้ ส.ลูกหนังเวียดนาม ยังได้อนุมัติเตรียมทีมงานให้กับ ปาร์ค ฮัง-ซอ อย่างเต็มที่ โดยทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชนอกเหนือจาก ปาร์ค ชุง-คยุน และคิม มิน-แท แล้วยังมี ลี ยัง-จิน, คิม ฮัน-ยุน 2 ผู้ช่วยโค้ชที่อยู่กับปาร์ค ฮัง-ซอ อยู่แล้ว และยังมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านกายภาพ ปาร์ค ซุง-กยอน, โค้ชผู้รักษาประตู คิม ฮยอน-แท และโค้ชแพทย์กายภาพ ดร.ชอย จู-ยอน

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.