ฤาตราไก่จะกลับบ้านตั้งแต่ไก่โห่? – Sanook

ลูกยิงของเตฌี ซาวานีเยในช่วงทดเจ็บช่วยต่อลมหายใจทีมตราไก่ฝรั่งเศส แต่ทว่าด้วยฟอร์มแบบนี้ที่แพ้เม็กซิโกขาดลอยเละเทะ 1-4 แล้วถูกทีมอย่างแอฟริกาใต้ที่สภาพทีมถือว่าไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ขึ้นนำถึงสามหนจนเกือบเอาตัวไม่รอด ฟอร์มแบบนี้ดูยังไงคนเชียร์ตราไก่อยู่ก็เหนื่อย

ก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มสำนักเสี่ยงดวงแบบที่ถูกต้องตามกฎหมายเล่นออกราคาแบบ “ออกตัวแรง” ยกให้ฝรั่งเศสเป็นเต็งสองในการลุ้นเหรียญทองครั้งนี้(แซงหน้าแม้กระทั่งอาร์เจนตินา ทีมที่พึ่งคว้าแชมป์โคปาฯมาหมาดๆ และเยอรมัน รองแชมป์เก่าคราวที่แล้วเสียด้วยซ้ำ) จนทำให้ใครหลายคนงงกันเป็นไก่ตาแตกว่าพวกเขามีดีอะไรถึงได้เป็นเต็งสอง

“โปรไฟล์ดี รุ่นพี่เด่น” อาจเป็นที่มาที่ทำให้เรตราคาออกมาชวนให้น่าเชื่อถือ เพราะอย่างว่าแข้งตราไก่ที่โค้ชใหญ่อย่างซิลเวน รีปอล์หอบเอามาที่โตเกียวหนนี้แต่ละรายก็ล้วนมีโพรไฟล์ธรรมดาซะที่ไหน แถมโควต้ารุ่นพี่ที่เลือกใช้เป็นใครก็ต้องร้อง “อู้หู” แบบไม่มีอะไรให้น่าแปลกใจ

อองเดร-ปิแอร์ ฌีญัก ศูนย์หน้าอดีตดาวซัลโวลีกเอิงและฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกอย่างคลับเวิร์ลคัพ, ฟลอริย็อง โตแว็ง ปีกตัวเก่งอดีตเด็กเก่าโอลิมปิก มาร์กเซยชุดรองแชมป์ยูโรปา และไหนจะ เตฌี ซาวานีเย มิดฟิลด์พ่วงตำแหน่งเดอะแบกประจำทีมมงต์เปลลิเยร์ สามรายที่ว่ามาในโควต้าอายุเกินมองมุมไหนก็ต้องบอกว่า “ใช้ได้..”

ไหนจะบรรดารุ่นน้องที่ติดมาด้วยหลายคนในทีมชุดนี้ที่พกดีกรีไม่ธรรมดาทั้งแชมป์ทวีปรุ่น ยู19, เหรียญทองแดงบอลโลก ยู17 และบางคนก็เคยสัมผัสแชมป์บอลถ้วยและแชมป์ลีกมาแล้วกับต้นสังกัด เรียกได้ว่าประสบการ์ณมีกันอย่างโชกโชน มันเลยไม่แปลกที่ว่าทำไมเรตราคาจึงออกมาชวนให้น่าซื้อแบบนั้น

เพียงแต่ว่า “โปรไฟล์ดีใช่ว่าผลงานจะเด่น” เพราะเมื่อเอาแต่ละแข้งมาเขย่ารวมกันแล้วส่งลงสนามกลับกลายเป็นว่าผลงานที่ออกมาดัน “ออกทะเล” เสียหยั่งงั้น! 

นักเตะเหมือนไม่ได้ซ้อมกันมาแถมด้านการสื่อสารก็เหมือนจะไม่เข้าใจกัน(อย่างที่เห็นได้จากการเสียประตูลูกแรกในเกมนี้) และที่สำคัญระบบทีมเวิร์คก็เหมือนต่างคนต่างเล่น-ดูไม่เป็นธรรมชาติ(จังหวะควรจ่ายก็เลี้ยงจนออกหลัง-ออกข้าง หรือบางจังหวะที่ดูเหมือนง่ายก็เลือกที่จะเล่นยากเสียหยั่งงั้น) 

และจากการเสียประตูรวมกันทั้งสองนัดโดยเสียมากถึงเจ็ดประตู(มากกว่าทุกทีมในกลุ่ม) บางลูกก็เสียง่ายๆชนิด “พร้อมแจก” มันบ่งบอกสัญญาณที่ไม่ดีอย่างนึงทันทีว่าเกมรับของพวกเขามีปัญหาที่ยังแก้ไม่ตก มันจึงทำให้ผลงานที่ออกมาก็อย่างที่เราๆท่านๆได้เห็นกันคือต้องลุ้นเข้ารอบแบบน้ำลายเหนียวคอ

มีคนแอบตั้งคำถามว่าฟอร์มของฝรั่งเศสแบบนี้พอเอาตัวรอดเข้ารอบได้มั้ย เมื่อเกมสุดท้ายต้องดวลกับเจ้าภาพ?

มองแบบเข้าข้างตัวเอง(สำหรับกองเชียร์ฝรั่งเศสนะ) ก็ต้องบอกว่า “ยังลุ้นได้” แต่ถ้ามองแบบกลางๆทั่วไปก็ต้องบอกว่า “เตรียมเก็บสัมภาระ”

อย่าลืมว่าเม็กซิโกมีเกมกับแอฟริกาใต้ที่อีกฝั่งตกรอบหมดลุ้นไปแล้ว ความกระหายและความมุ่งมั่นของนักเตะทั้งสองทีมคงจะต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งแน่นอนว่าทีมจังโก้คงผ่านได้ไม่ยาก(เผลอๆถ้าเน้นๆหน่อยอาจโกยสกอร์ได้แบบเป็นกระบุงเลยด้วยซ้ำ) 

ในขณะที่เจ้าภาพอย่างญี่ปุ่นเองก็คงไม่อยากให้เกิดโศกนาฎกรรมและคงเล่นอย่างระมัดระวังแบบช่วยกันเล่น-ช่วยกันไล่ อาศัยความได้เปรียบของสภาพภูมิอากาศและความคุ้นเคยสนามจากการลงเล่นในบ้าน ผลเสมอเท่านั้นก็เพียงพอที่จะให้พวกเขาได้ไปต่อแบบโก้ๆด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่ม

ยิ่งถ้าจะพูดเรื่องภาษีลูกได้-เสีย ทั้งญี่ปุ่นและเม็กซิโกก็ดีกว่าตราไก่เห็นๆ (ฝรั่งเศสหากอยากไปต่อต้องยิงเจ้าภาพให้ขาดกระจุยสองลูกอย่างต่ำ) หรือถ้าทำไม่ได้ก็ต้องชนะไว้ก่อนแล้วไปหวังยืมจมูกแอฟริกาใต้หายใจ ดังนั้นที่ผมบอกว่าตราไก่เตรียมแพ็คกระเป๋ากลับบ้านก็เป็นความเป็นไปได้ในแบบที่ตรงไปตรงมากับสถานการ์ณที่เกิดขึ้นในตอนนี้ที่สุดนั่นเอง

เวลานี้อาจต้องขอฟันธงแบบทำร้ายจิตใจกองเชียร์ตราไก่ซักหน่อย เพราะในโลกของฟุตบอลมันก็เป็นอย่างงี้แหละ(สถานการ์ณมันเปลี่ยนแปลงได้อยู่ทุกวันและคำว่า “ก่อนเตะรุ่ง หลังแข่งร่วง” ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ)

ฝรั่งเศสชั่วโมงนี้ลุ้นยากเสียแล้ว เราคงต้องมาดูกันว่า 90 นาทีกับเจ้าภาพพรุ่งนี้จะกลายเป็น 90 นาทีสุดท้ายหรือไม่ในโอลิมปิกครั้งนี้ของพวกเขา?

ตราไก่จะกลับบ้านตั้งแต่ไก่โห่เลยมั้ย? เดี๋ยวได้รู้กัน!