ถือว่าเป็นผู้กอบกู้ในฐานะคนปลุกทีมให้ตื่นมาชูถ้วยแชมป์ได้แบบต่อเนื่องเลย สำหรับ “มันโช่” โรแบร์โต มันชินี กุนซือทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์ยูโร 2020 หากดูจากประวัติการทำงานในวงการลูกหนังของโค้ชวัย 56 ปี ที่สามารถนำต้นสังกัดตื่นจากการหลับใหลแล้วหวนกลับไปพบกับความสำเร็จได้โดยตลอดเลย
ถ้าจะว่าไปแล้ว “มันโช่” เป็นผู้ที่ปลุกทีมให้ตื่นมาชูถ้วยแชมป์ตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะเสียด้วยซ้ำ โดยเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ โบโลญญา ในปี 1980 แต่ย้ายมาโด่งดังกับ “ลา ซามพ์” ซามพ์โดเรีย ในปี 1982 ซึ่งตอนนั้นเป็นทีมลูกหนังที่เพิ่งก่อร่างสร้างตัวไปสู่ความสำเร็จ หลังจากที่เริ่มก่อตั้งสโมสรเมื่อปี 1946 และเป็นหนึ่งในนักเตะของ “ยุคทอง” ที่ได้ชูถ้วยแชมป์หลายรายการเลยด้วย
หลังจากนั้น “มันโช่” ได้ย้ายไปค้าแข้งกับ “อินทรีฟ้าขาว” ลาซิโอ ในปี 1997 ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มก่อร่างสร้างทีมให้กลับไปสู่ความสำเร็จอีกครั้ง และมีส่วนช่วยให้สโมสรเข้าป้ายแชมป์กัลโช เซเรีย อา อิตาลี ในปี 2000 จึงได้หวนกลับคืนสู่บัลลังก์แชมป์ลีกสูงสุดเมืองมะกะโรนีเป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี นับตั้งแต่ตอนที่ได้ชูถ้วยแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศสมัยแรกในปี 1974
หลังจากนั้นได้ย้ายไปรับงานคุมทัพ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ในปี 2004 และสามารถพาทีมคว้าแชมป์กัลโช เซเรีย อา ในปี 2006 ซึ่งเป็นการหวนกลับมายึดบัลลังก์แชมป์ลีกสูงสุดเมืองมะกะโรนีเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ก่อนจะตัดสินใจลองย้ายไปคุมทีมในต่างแดน โดยตอบตกลงรับงานคุมทัพ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ บนเกาะอังกฤษในปี 2009
ทว่า “มันโช่” ต้องโบกมืออำลา “เรือใบสีฟ้า” ในปี 2013 หลังจากนั้นได้พเนจรไปรับงานคุมทัพ กาลาตาซาราย ในปี 2013 และหวนกลับไปคุมทัพ อินเตอร์ มิลาน ในปี 2014 ก่อนจะย้ายไปคุมทัพ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ในปี 2017 แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงได้ลองรับงานคุมทีมระดับชาติดูบ้าง โดยได้ตอบตกลงรับงานคุมทีมชาติอิตาลีในปี 2018
ด้วยเหตุนี้ มันชินี จึงถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในฐานะผู้ก่อร่างสร้างทีมให้หวนคืนสู่บัลลังก์แชมป์ได้อีกครั้ง หากดูจากประสบการณ์ที่เคยผ่านโลกของเกมลูกหนังมาแบบโชกโชน
This website uses cookies.