Football Sponsored

“เดอะตุ๊ก” ยัน 2 โค้ชเกาหลีโปรไฟล์หรูสนคุมทีมชาติไทย – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

ฤาต้องโค้ชเกาหลี ! “เดอะตุ๊ก” ยันเองมีสุดยอดโค้ชเกาหลีใต้ที่ผ่านสมรภูมิเวทีฟุตบอลโลกถึง 2 คน สนใจอยากคุมทีมชาติไทย เผยเอเยนต์ส่งโปร์ไฟล์มาให้แล้ว แต่รอ ส.บอลไทย คุยกับ อากิระ นิชิโนะ ก่อนว่าบทสรุปจะได้คุมต่อหรือไม่ ชี้หากส.บอลไทย ต้องเปลี่ยนแปลงโค้ช เตรียมยื่นโปรไฟล์โค้ชโสมขาวทั้ง 2 คนให้พิจารณาทันที ขณะที่สื่อคาดจากคำบอกใบ้ของ “เดอะตุ๊ก” รู้เลยโค้ช 2 รายนี้เป็นใคร

    หลังจากทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ร่วงตกรอบฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ทำให้เก้าอี้กุนซือใหญ่ของ อากิระ นิชิโนะ กำลังร้อนสุดๆ ทว่าตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถึงเรื่องของอนาคตว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป อีกทั้งเมื่อวันที่ 15 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ยังได้มีจดหมายหลุดแสดงวิสัยทัศน์ของ ลี ลิม เซียง อดีตขุนพลเกาหลีใต้ชุดลุยศึกฟุตบอลโลกฟร้องซ์ 98 และอดีตโค้ช ซูวอน ซัมซุง บลูวิงส์ ในปี 2019-2020 ที่สนใจอยากจะเข้ามาคุมทัพ “ช้างศึก” อีกด้วย

    ล่าสุด “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ยอดกองหน้าตำนานทีมชาติไทย ได้ออกมาเปิดเผยผ่านช่องยูทูปของตัวเองในช่องแตงโมลง ปิยะพงษ์ยิง ถึงเรื่องของกุนซือชาวเกาหลีใต้ที่สนใจอยากเข้ามากุมบังเหียนทีมชาติไทยว่า “ตอนนี้เพื่อนผมที่อยู่เกาหลี โทรมาติดต่อว่ามีโค้ชเกาหลีอยากจะมาเป็นโค้ชให้กับทีมชาติไทย”

    “โดยเขาส่งโปรไฟล์มาเรียบร้อย ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยของ “กุส ฮิดดิงก์” ในฟุตบอลโลกปี 2002 ซึ่งมีปาร์ค ฮัง ซอ โค้ชเวียดนามในปัจจุบันเป็นผู้ช่วยด้วยกัน ก่อนจะมาทำทีมอยู่ในเวียดนาม ซึ่งตอนนี้ได้ทำทีมระดับลีกรองอยู่ที่เกาหลี และเคยเป็นรุ่นพี่ผมสมัยเล่นลัคกี้ โกลด์สตาร์ด้วย”

    “นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งคนที่สนใจ ซึ่งเอเยนต์เขาติดต่อผมทาเช่นกัน และผมอยากจะบอกว่าคนนี้คุมทีมอยู่ในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 รอบแบ่งกลุ่ม ที่ผ่านมา และเป็นคนที่ดังด้วย สมัยเป็นนักเตะเคยเป็นกัปตันทีมเกาหลีใต้ลุยฟุตบอลโลกมาแล้ว และเคยเป็นโค้ชพาเกาหลีใต้ไปลุยบอลโลกมาแล้วอีกด้วย โดยเขาก็อยากมาเป็นโค้ชทีมชาติไทยถ้ามีโอกาส”

    “อย่างไรก็ตามโปรไฟล์ 2 คนนี้อยู่กับผมแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยที่จะเตรียมพูดคุยกับ อากิระ นิชิโนะ ก่อนว่าจะต่อสัญญาหรือไม่ ถ้าไม่ต่อแต่สมาคมอยากเปลี่ยนแปลงได้โค้ชไทยก็เรื่องของสมาคม แต่ถ้าอยากได้โค้ชนอกเราถึงจะยื่นโปรไฟล์ 2 คนนี้ให้กับสมาคมเพราะเอเยนต์เขาส่งมาให้ผมแล้ว”

    ทั้งนี้จากการเปิดเผยของ “เดอะตุ๊ก” ซึ่งชื่อของ 2 คนดังกล่าวค่อนข้างชัดเจนมากว่าเป็นใคร โดยคนแรกเป็นทาง “จุง แฮ ซอง” โค้ชชาวเกาหลีใต้ วัย 63 ปี และอีกคน “ฮอง เมียง โบ” กุนซือชาวเกาหลีใต้ วัย 52 ปี ที่ปัจจุบันคุมทีมอุลซาน ฮุนได มอเตอร์ส มาคว้าแชมป์กลุ่ม เอฟ ในศึก “เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021” และพาทีมเอาชนะบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้ถึง 2 เกม

    สำหรับ จุง แฮ ซอง เคยเป็นเพื่อนร่วมทีม “เดอะตุ๊ก” สมัยค้าแข้งกับลัคกี้ โกลด์สตาร์ ช่วงปี 1984-1989 ก่อนรับบทผ่านการเป็นผู้ช่วยโค้ชมาอย่างมากมาย อาทิ เอฟซี โซล, โปฮัง สตีลเลอร์ส, ชุนนัม ดราก้อน, เจจู ยูไนเต็ด ฯลฯ นอกจากนี้ยังเคยเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชาติเกาหลีใต้ ชุดฟุตบอลโลก 2002 ส่วนผลงานการคุมทีมเริ่มแรกเป็นประธานเทคนิคให้กับ ฮองอันห์ ยาลาย ในปี 2017-2018 ก่อนจะเป็นกุนซือใหญ่คุม โฮจิมินห์ ซิตี้ ในปี 2019-2020 นอกจากนี้ยังมีดีกรีเป็นกุนซือโปร์ ไลเซนส์ อีกด้วย

    ขณะที่ ฮอง เมียง โบ ตำนานนักเตะทีมชาติเกาหลีใต้ ผ่านสมรภูมิเวทีฟุตบอลโลกถึง 4 ครั้งตั้งแต่ปี 1990 ที่อิตาลี, ปี 1994 ที่สหรัฐอเมริกา, ปี 1998 ที่ฝรั่งเศส และปี 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วม โดยครั้งสุดท้ายปี 2002 ยังสวมบทเป็นกัปตันทีมพาทีมทะลุจบอันดับ 4 เป็นประวัติศาสตร์อีกด้วย นอกจากนี้สมัยเป็นนักเตะยังคว้ารางวัลมาอย่างมากมายจนนับไม่ถ้วน

    ในส่วนของการคุมทีม ฮอง เมียง โบ เริ่มคุมทีมชาติเกาหลีใต้ ลุด ยู-20 ปี ก่อนจะขยับมาคุมในชัด ยู-23 ปี และก้าวมาเป็นทีมชุดใหญ่พาทีมลุยศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล แม้จะไม่ประสบความสำเร็จหลังพาทีมตกรอบแบ่งกลุ่มก็ตาม ก่อนจะรับผิดชอบด้วยการลาออกหลังจบฟุตบอลโลกทันที  จากนั้นเจ้าตัวได้หันมาคุมสโมสรเริ่มจากกว่างโจว อินทาวน์ ในลีกจีน ปี 2016-2017 ก่อนจะพักผ่อนไป 3 ปี และหวนกลับมาคุมสโมสรในบ้านเกิดกับ อุลซาน ฮันได มอเตอร์ส ในปี 2021 จนถึงปัจจุบัน

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.