Football Sponsored

อยู่ช่วยกันก่อนพี่ชาย!โบนุชชี่พร้อมกล่อมคิเอลลินี่สู้ศึกบอลโลก2022 – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ยอดปราการหลังทีมชาติอิตาลี ลั่นจะพยายามกล่อมให้ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ อยู่ช่วยทัพ “อัซซูร์รี่” ต่อไป จนถึงศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ขณะที่ คิเอลลินี่ ตอบสวนกลับได้อย่างน่าสนใจ

     เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ เซนเตอร์แบ็กจอมแกร่งทีมชาติอิตาลี ยืนยันว่า ตนพร้อมที่จะกล่าวโน้มน้าวใจให้ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ คู่หูปราการหลังรุ่นพี่ ทั้งในทีมชาติและ ยูเวนตุส ให้อยู่ช่วยทัพ “อัซซูร์รี่” ต่อไป จนถึงศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ 

     ทั้งสองถือเป็นกำลังสำคัญที่ช่วย อิตาลี ผงาดคว้าแชมป์ ยูโร 2020 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ หลังดวลจุดโทษชนะ อังกฤษ 3-2 (เสมอ 1-1 ใน 120 นาที) ในเกมรอบชิงฯ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

     ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า คิเอลลินี่ วัย 36 ปี อาจจะแขวนสตั๊ตหลังจบฤดูกาล 2021/22 ซึ่งนั่นทำให้เจ้าตัวจะไม่ได้ช่วยทัพ “อัซซูร์รี่” ลุยศึกฟุตบอลโลกช่วงปีหน้า แต่ถึงกระนั้น โบนุชชี่ ระบุชัดว่า ตนจะพยายามกล่อมให้ คิเอลลินี่ อยู่ช่วยทีมสู้ศึกใหญ่ที่ประเทศกาตาร์ 

     “ผมจะโน้มน้าวใจเขาแน่นอน เราจะไปพักร้อนด้วยกัน ดังนั้นผมจะลองกล่อมเขาดู ไม่ต้องห่วงหรอก” โบนุชชี่ วัย 34 ปี กล่าว 

     ขณะที่ คิเอลลินี่ ซึ่งเตรียมขยายสัญญากับ ยูเวนตุส ออกไปอีก 1 ปี ตอบกลับได้อย่างน่าสนใจ “ผมไม่รู้ด้วยซ้่ำว่า วันพรุ่งนี้ผมจะวิ่งไหวหรือเปล่า ดังนั้นเรื่องนี้ใจเย็นไว้ก่อน แต่ เลโอ (โบนุชชี่) กับ จีโจ้ (จานลุยจิ ดอนนารุมม่า) จะไปอยู่ที่นั่น (ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2022) แน่นอน”

     ทั้งนี้ คิเอลลินี่ ลงสนามรับใช้ทีมชาติอิตาลีไปแล้ว 112 นัด ทำได้ 8 ประตู โดยลงเล่นนัดแรกตั้งแต่ปี 2004 

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.