Football Sponsored

‘ควีนเอลิซาเบธที่ 2’ พระราชทานพรแด่ทีมชาติอังกฤษ ก่อนนัดชิงยูโร 2020 – TNN24

Football Sponsored
Football Sponsored

ราชวงศ์อังกฤษ ส่งสาส์นแสดงความปรารถนาดีและเป็นกำลังใจแก่ทีมสิงโตคำรามก่อนลงเตะนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลยูโร 2020 คืนนี้!!

สร้างความปลาบปลื้มและถือเป็นขวัญกำลังใจสำคัญให้กับทั้ง “แกเร็ธ เซาธ์เกต” (Gareth Southgate) กุนซือทีมชาติอังกฤษ รวมถึงเหล่านักเตะทีมสิงโตคำรามอย่างล้นพ้น

เมื่อช่องทางโซเชียลของสำนักพระราชวังบักกิ้งแฮม ได้โพสต์สาส์นพระราชทานพรจาก “สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2” ก่อนหน้าที่ทีมชาติอังกฤษจะลงเตะนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ EURO 2020 กับ ทีมชาติอิตาลี

ในเนื้อความระบุว่า “55 ปีก่อน ข้าพเจ้าโชคดีที่ได้ทำหน้าที่มอบถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 1966 ให้กับ “บ็อบบี้ มัวร์” (Bobby Moore) กัปตันทีมชาติอังกฤษในขณะนั้น และได้เห็นว่าถ้วยแชมป์นั้นมีความหมายต่อผู้เล่นและเหล่าทีมบริหารจัดการ รวมถึงทีมงานผู้มีส่วนร่วมมากขนาดไหน ในการได้ผ่านเข้าชิงจนสามารถคว้าแชมป์มาครองของทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติ”

“ในโอกาสนี้ ข้าพเจ้าและครอบครัว ขอส่งแรงใจและความปรารถนาดีไปยังนักเตะและสตาฟฟ์โค้ช ก่อนลงเตะแม็ตช์สำคัญด้วยความหวังว่าประวัติศาสตร์จะไม่เพียงจารึกถึงความสำเร็จของพวกคุณเท่านั้น แต่จะยังจารึกถึงทีมสปิริต, ความมุ่งมั่นในพันธะสัญญาและความภาคภูมิใจที่พวกคุณได้รวมใจกันสร้างขึ้นมา”

Photo Credit: IG theroyalfamily

สำหรับทีมสิงโตคำรามอังกฤษ คว้าแชมป์โลกสมัยแรกและสมัยเดียวจากปี 1966 ซึ่งอังกฤษเป็นเจ้าภาพเอง ขณะที่ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งนี้ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าชิงได้เป็นครั้งแรก

โดยแม็ตช์ชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2020 คู่ระหว่างอังกฤษกับอิตาลี จะแข่งขันกันที่สนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เวลา 02.00 น. วันที่ 12 ก.ค. 64 หรือกลางดึกคืนวันอาทิตย์ที่ 11 ก.ค. 64

Photo Credit: IG england

Photo Credit: IG england

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.