Football Sponsored

“ทรุสซิเย่ร์” แนะบอลลีกเวียดนามดูเดนมาร์ก – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

“พ่อมดขาว” ฟิลิปส์ ทรุสซิเย่ร์ อดีตกุนซือเยาวชน 19 ปี ทีมชาติเวียดนาม และ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาศักยภาพนักฟุตบอลอาชีพเวียดนาม(PVF) ที่เพิ่งแยกทางกันก่อนหน้านี้ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโอกาสของทีมชาติเวียดนามในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม หรือรอบ 12 ทีม กับสื่อเวียดนามทั้ง thethao247 และ tuoitre ว่า เป็นงานที่ยากเมื่อต้องลงเล่นในเวทีระดับสูงขึ้นแต่ทุกอย่างก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ

    โดย “พ่อมดขาว” ฟิลิปส์ ทรุสซิเย่ร์ เผยถึงโอกาสของเวียดนามว่า นี่เป็นกลุ่มที่ยากสำหรับเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทีมในกลุ่มมีชื่อทีมที่อย่าง ญี่ปุ่น ,ซาอุดีอาระเบีย, ออสเตรเลีย นี่คือความท้าทายของเวียดนามที่จะต้องพบกับด่านสำคัญ แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะเป็นไปไม่ได้ การแข่งขันนัดแรกจะส่งผลกระทบต่อแรงจูงใจและความมั่นใจหากผลการแข่งขันเป็นที่น่าพอใจในนัดแรก นอกจากนั้นการแข่งขันที่ยาวนานจะเป็นปัญหาของทีมเวียดนาม การเสียผู้เล่นกำลังหลักๆอาจจะส่งผลกระทบโดยตรง นั่นจะเป็นปัญหาสำหรับ ปาร์ค ฮัง ซอ ในการหมุนเวียนผู้เล่นที่มีคุณภาพ โอกาสที่เวียดนาม จะผ่านเข้ารอบ ประมาณ 40% และหากต้องการตัวอย่างที่ดีควรศึกษาเรื่องราวของเดนมาร์กในยูโร 2021 เชื่อว่าสิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือแฟนๆ ชาวเวียดนามจะสนับสนุนผู้เล่นสู่ชัยชนะเสมอ

    สำหรับในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม หรือรอบ 12 ทีม   เวียดนามจับสลากอยู่ร่วมสาย B ร่วมกับ ญี่ปุ่น,ออสเตรเลีย,ซาอุดิอาระเบีย,จีน,โอมาน

โปรแกรมทีมชาติเวียดนามฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 12 ทีม

2 ก.ย.64                 พบ ซาอุดิอาระเบีย (เยือน)

7 ก.ย.64                 พบ ออสเตรเลีย (เหย้า)

7 ต.ค.64                 พบ จีน (เยือน)

12 ต.ค.64              พบ โอมาน (เยือน)

11พ.ย.64               พบ ญี่ปุ่น (เหย้า)

16พ.ย.64               พบ ซาอุดิอาระเบีย (เหย้า)

27 ม.ค.65              พบ ออสเตรเลีย (เยือน)

1 ก.พ.65                พบ จีน (เหย้า)

24 มี.ค.65              พบ โอมาน (เหย้า)

29 มี.ค.65              พบ ญี่ปุ่น (เยือน)

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.