“เลิฟ” เผยอนาคตแล้ว หลังโบกมือลา “เยอรมนี” ตกรอบ 16 ทีม ยูโร 2020 – ไทยรัฐ
โยอาคิม เลิฟ เผยเบื้องต้นเรื่องอนาคตของตัวเองแล้ว หลังทีมชาติเยอรมนีจบเส้นทางยูโร 2020 ที่รอบ 16 ทีม ก่อนส่งมอบเก้าอี้กุนซือให้ ฮันซี ฟลิค
วันที่ 1 ก.ค. 64 โยอาคิม เลิฟ ให้สัมภาษณ์กับ คิกเกอร์ สื่อกีฬาชื่อดังของเมืองเบียร์ หลังมีกระแสว่าตัวเขาอาจอำลาวงการฟุตบอล ซึ่งกุนซือวัย 61 ปี ได้ยุติบทบาทกับทีมชาติเยอรมนีแล้ว หลังจากแพ้ อังกฤษ 0-2 ตกรอบ 16 ทีมในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2020” โดยก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ได้ยืนยันว่าจะไม่ต่อสัญญา โดยมี ฮันซี ฟลิค อดีตกุนซือบาเยิร์น มิวนิก เข้ามารับช่วงต่อด้วยสัญญาจนถึงปี 2024
เลิฟ ที่คุมทีมชาติเยอรมนีมานาน 15 ปี เปิดเผยว่า “ผมไม่เคยพูดถึงเรื่องการวางมือ แน่นอนว่ายังมีความท้าทายใหม่อีกมากมายที่น่าสนใจ แต่การพักเบรกก็สำคัญสำหรับผม หลังจากทำหน้าที่กับทีมชาติเยอรมนีมายาวนาน คุณคงไม่มองถึงสิ่งใหม่ๆ รอบตัวในทันที แต่ผมต้องยอมรับความผิดหวังและการอำลาจากตำแหน่งด้วยการกลับบ้านมือเปล่า ซึ่งคุณคงไม่อยากจบทัวร์นาเมนต์แบบนี้ คงต้องใช้เวลาพักใจสักระยะ”
สำหรับ โยอาคิม เลิฟ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชาติเยอรมนีต่อจาก เยอร์เกน คลินส์มันน์ หลังจบฟุตบอลโลก 2006 พาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 และได้อันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2010 รวมถึงเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูโร 2008 แต่ไปแพ้ สเปน ได้เพียงรองแชมป์ และยังคว้าแชมป์ฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชันส์ คัพ 2017 ด้วย
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.