ในที่สุด แกเรธ เซาธ์เกต กุนซือ “สิงโตคำราม” อังกฤษ สามารถนำทีมบ้านเกิดปลดแอกจากใต้ร่มเงาของ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ได้เสียที เพราะเคยมีสถิติแพ้ทางทีมคู่ปรับจากเมืองเบียร์ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่มาโดยตลอด แต่เพิ่งจัดการเขี่ยทีมคู่รักคู่แค้นตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึก ยูโร 2020 ได้สำเร็จ และยังคงอยู่บนเส้นทางลุ้นยึดบัลลังก์ “เบอร์หนึ่ง” ของทวีปยุโรปเป็นครั้งแรกต่อไป
ก่อนหน้านี้ อังกฤษ ดูเหมือนว่าจะแพ้ทาง เยอรมนี ถ้านับเฉพาะสถิติการเจอกันในรอบสุดท้ายของ 2 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ นั่นก็คือ ในศึกฟุตบอลโลก และศึกยูโรรวมกันทั้งหมด 8 ครั้ง ปรากฎว่า เยอรมนี พกสถิติข่มจากการคว้าชัยได้มากถึง 5 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้ 2 เกม แต่ถ้านับเฉพาะการดวลแข้งกันในรอบน็อคเอาท์ ปรากฎว่า อังกฤษ มีสถิติเป็นรองด้วยเช่นกัน เพราะคว้าชัยได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งต้องย้อนหลังกลับไปในนัดชิงฟุตบอลโลก 1966 เกมที่เอาชนะช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-2 โน้นเลย
ส่วนผลการพบกันในรอบน็อคเอาท์หนล่าสุดเกิดขึ้นในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ปรากฎว่า เยอรมนี เป็นฝ่ายชนะ 4-1 แต่ถ้าเป็นการเจอกันในรอบน็อคเอาท์ของศึกยูโรครั้งล่าสุดต้องย้อนกลับไปในศึกยูโร 1996 เมื่อตอนที่ อังกฤษ สวมบทเป็นเจ้าภาพ โดยพลาดท่าแพ้ในช่วงดวลจุดโทษตัดสิน 5-6 หลังเสมอในช่วง 120 นาที 1-1 ซึ่งเตะกันที่้เวมบลีย์นั่นเอง
และถ้าจำกันได้ในเกมนั้น เซาธ์เกต กุนซือทัพลูกหนัง “สิงโตคำราม” คนปัจจุบันรับหน้าที่สังหารจุดโทษในช่วงดวลเป้าตัดสินเป็นคนสุดท้าย แต่อดีตกองหลังในช่วงทศวรรษ 90 กลับยิงไปติดเซฟของ อันเดรียส ค็อปเค่ อดีตนายทวาร “อินทรีเหล็ก” ที่ล้มตัวไปทางขวามือของตัวเองแล้วปัดบอลเอาไว้ได้ โดยปัจจุบัน ค็อปเค่ สวมบทเป็นโค้ชผู้รักษาประตูให้ทีมบ้านเกิดอยู่ด้วย
แต่ตอนนี้ เซาธ์เกต ได้จัดการลบฝันร้ายดังกล่าวตั้งแต่ตอนสมัยที่เป็นนักเตะได้แล้ว โดยสวมบทเป็นกุนซือ “สิงโตคำราม” และนำทีมบ้านเกิดเก็บชัยเหนือ “อินทรีเหล็ก” ในศึกยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ด้วยสกอร์ 2-0 ซึ่งเตะกันที่้เวมบลีย์ด้วยเช่นกัน ทำให้ อังกฤษ ยังคงมีโอกาสลุ้นแชมป์รายการนี้ต่อไป หลังจากที่เคยไปได้ไกลที่สุดเพียงรอบรอบชนะเลิศทั้งหมด 2 ครั้งในศึกยูโร 1968 และยูโร 1996
นับตั้งแต่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 ซึ่งเป็นความสำเร็จในรายการใหญ่เพียงแค่ครั้งเดียวถ้วน เพราะว่าหลังจากนั้น อังกฤษ ไม่เคยใกล้เคียงกับการชูถ้วยแชมป์ในเกมระดับชาติอีกเลย จึงเป็นโอกาสที่ดีของ เซาธ์เกต สำหรับการนำทีมบ้านเกิดไปให้ถึงฝั่งฝัน นั่นก็คือ การคว้าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยแรกนั่นเอง หลังจากที่พ้นใต้ร่มเงาของทัพลูกหนัง “อินทรีเหล็ก” ได้แล้ว แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องไปถึงรอบชิงชนะเลิศให้ได้ด้วยเช่นกัน
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด