Football Sponsored

แจงละเอียด ทุกเงื่อนไขที่ “เวียดนาม” จะชวดเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย คัดบอลโลก ไทยรัฐ – ไทยรัฐ

Football Sponsored
Football Sponsored

ทีมข่าวไทยรัฐสปอร์ต เปิดเงื่อนไขที่ทีมชาติเวียดนาม จะไม่ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก โซนเอเชีย และกอดคอทีมชาติไทยตกรอบไปด้วยกัน

สำหรับเงื่อนไขที่เวียดนาม จะไม่ผ่านเข้ารอบ ต้องเป็นไปตามนี้ทั้งหมด

———-
1.) เวียดนาม แพ้ ยูเออี —> เวียดนามจะเป็นที่ 2 กลุ่ม G /// ขึ้นอยู่กับว่าแพ้เท่าไร ยิ่งแพ้มากยิ่งเสี่ยงตกรอบมาก

-เวียดนามจะมีคะแนนเมื่อเทียบอันดับ 2 หลังตัดการเจอ อินโดนีเซีย (17-6) = 11 คะแนน ลูกได้เสียจะมีน้อยกว่า +3 (ตัดผล ชนะอินโดนีเซีย 3-1 และ 4-0)
———
2.) ลุ้นสถานการณ์กลุ่มอื่นๆ เป็นดังนี้ 5 ใน 6 กลุ่ม (ไม่นับกลุ่ม F)

A: จีน ไม่แพ้ ซีเรีย (จีน การันตีอันดับ 2 ที่ 11 คะแนน ลูกได้เสียมากกว่าหรือเท่ากับ +11 ซึ่งมากกว่า เวียดนามแน่นอน)

B: จอร์แดน ชนะ ออสเตรเลีย (จอร์แดน การันตีอันดับ 2 ที่ 11 คะแนน ลูกได้เสียมากกว่า +5 ซึ่งมากกว่า เวียดนามแน่นอน)

C: อิหร่าน ชนะ อิรัก ไม่ขาด (อิหร่านแซงเป็นแชมป์กลุ่ม, อิรัก การันตีอันดับ 2 ที่ 11 คะแนน มีลูกได้เสียที่มากกว่าเวียดนาม) **ขึ้นอยู่กับเวียดนามจะแพ้ยูเออีเท่าไร**

D : อุซเบกิสถาน ชนะ ซาอุดีอาระเบีย (อุซเบกิสถาน แซงเป็นแชมป์กลุ่ม, ซาอุดีอาระเบีย การันตีคะแนนอันดับ 2 ต่ำสุดที่ 11 คะแนน และลูกได้เสียที่สำรองไว้ที่ +12 **ขึ้นอยู่กับผลสกอร์)

**สถานการณ์กลุ่มนี้ ยังไม่แน่นอนว่า ใครจะเป็นอันดับสุดท้ายของกลุ่มระหว่างสิงคโปร์ หรือเยเมน**

E : โอมาน ชนะ บังกลาเทศ (ถ้าโอมานแพ้ คะแนนอันดับ 2 ของโอมานจะเหลือแค่ 9 แต้ม เพราะบังกลาเทศจะไม่ใช่อันดับสุดท้ายของกลุ่ม)

F : สายนี้คะแนนอันดับสองของทาจิกิสถานหรือคีร์กิซสถานไม่สามารถสู้เวียดนามได้ทุกกรณี มากที่สุด จะมีคะแนนอันดับ 2 เพียง 7 คะแนน

H: เลบานอน ไม่แพ้ เกาหลีใต้ (เลบานอน การันตีอันดับ 2 ที่ 11 คะแนน ลูกได้เสียมากกว่าหรือเท่ากับ +4 ซึ่งมากกว่า เวียดนามแน่นอน)

***อันดับ 2 ที่ดีที่สุด ที่เป็นอันดับ 5 จะได้เข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายด้วย เพราะกาตาร์ เจ้าภาพบอลโลก 2022 ได้เข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ จึงไม่ได้เข้าแข่งขันในรายการนี้

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.