ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ยังไม่ชนะใครเลย ในการออกไปเล่นที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ครั้งนี้ โดย 2 เกมที่ผ่านมา ทำได้เพียงแค่ เสมอกับ อินโดนีเซีย 2-2 ตามด้วยการพ่ายให้กับ ยูเออี 1-3 ส่งผลให้ตอนนี้ลงสนามไป 7 นัด มี 9 คะแนน รั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม หมดโอกาสผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว แต่ยังคงมีลุ้นจบในอันดับ 3 เพื่อคว้าสิทธิ์ไปเล่นในศึก เอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือก
สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ อากิระ นิชิโนะ กุนซือทัพช้างศึก จะมีขุมกำลังที่สมบูรณ์ โดยแข้งที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนในช่วงก่อนหน้านี้อย่าง “กัน” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร กลับมาลงซ้อมกับทีมได้แล้ว พร้อมมีชื่อติดเป็น 23 คนสุดท้ายอีกครั้งในเกมนี้ รวมทั้ง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ วรวุฒิ นามเวช ก็หายเจ็บแล้วเช่นกัน ขณะที่แข้งตัวหลักรายอื่นๆ ต่างยังคงฟิตสมบูรณ์ พร้อมลงสนามกันแบบครบครัน
อย่างไรก็ตาม เกมนี้ต้องเดาใจเฮดโค้ชชาวญี่ปุ่นว่าจะจัดทัพแบบใด แต่คาดว่าน่าจะมีการปรับทัพหลายตำแหน่งจากเกมกับยูเออี โดยแข้งที่ยังไม่มีโอกาสได้ลงสนามใน 2 เกมที่ผ่านมา มีโอกาสจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ร่วมกับแกนหลักที่นำทัพโดย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, มานูเอล ทอม เบียรห์ และ สารัช อยู่เย็น
“เสือเหลือง” ทีมชาติมาเลเซีย หมดโอกาสผ่านเข้าสู่รอบต่อไปแล้วเช่นกัน หลังพ่ายให้กับ ยูเออี 0-4 และแพ้ เวียดนาม 1-2 ในเกมล่าสุด ทำให้ตอนนี้มี 9 แต้ม เท่ากับไทย แต่มีประตูได้เสียเป็นรอง ทำให้รั้งอันดับ 4 ของตารางคะแนน
สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ ตัน เชง โฮ กุนซือทัพเสือเหลือง จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โมฮามาดู ซูมาเรห์ แข้งตัวเก่ง ผู้ทำประตูชัยให้ทีมในเกมแรกที่พบกับ ทีมชาติไทย รวมทั้ง ลาเวียร์ คอร์บิน-ออง และ ชามีร คุตตี อับบา ที่ติดโทษแบนทั้ง 3 คน ส่วนแข้งหลักที่เหลือ ยังคงฟิตสมบูรณ์ พร้อมลงสนามทั้งหมด นำทัพโดย เบรนดอน กัน แนวรับลูกครึ่งออสเตรเลีย, ซาฟาวี รอซิด และ กิลเยอร์เม่ เดอ เปาล่า ผู้สังหารจุดโทษให้ทีมในเกมกับเวียดนาม
ไทย : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, พรรษา เหมวิบูลย์, มานูเอล ทอม เบียรห์, ศศลักษณ์ ไหประโคน, สารัช อยู่เย็น, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, สุภโชค สารชาติ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา
มาเลเซีย : ฟาริซาล มาร์เลียส (GK), แมทธิว เดวิส, ไอดิล ซาฟวน, แบรนดอน กัน, ริซาล กาซาลี่, ลิริดอน ครานซิกี้, นัซมี ฟาอิซ, ซาฟาวี รอซิด, ซยาฟิค อาหมัด, อาริฟ ไอมาน, กิลเยอร์เม่ เดอ เปาล่า
ไทย
มาเลเซีย
ทั้ง ทีมชาติไทย และ ทีมชาติมาเลเซีย ต่างก็หมดลุ้นที่จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปในศึกคัดบอลโลกหนนี้แล้ว ทว่าทั้ง 2 ทีม ยังต้องแย่งชิงอันดับ 3 ของกลุ่มกัน เพื่อคว้าสิทธิ์ไปเล่นในศึก เอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือก
สำหรับสถิติการพบกันในช่วงหลัง เป็นทัพเสือเหลือง ที่ทำได้ดีกว่า โดย 4 ครั้งหลังสุด มาเลเซีย ชนะ 2 เสมอ 2 อย่างไรก็ตาม เกมนี้ มาเลเซีย จะต้องเอาชนะทัพช้างศึกให้ได้เท่านั้น หากหวังจะจบด้วยอันดับ 3 ของกลุ่ม ในขณะที่ ทีมชาติไทย ขอเพียงผลเสมอ ก็จะการันตีที่ 3 ทันที เนื่องจากมีประตูได้เสียที่ดีกว่า
เกมนี้จะไม่ใช่งานง่ายของ ทีมชาติไทย อย่างแน่นอน เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า เกมแรกที่พบกัน ไทยเป็นฝ่ายบุกไปพ่ายมาเลเซียมา 1-2 ซึ่งทำให้โอกาสของทัพช้างศึกในการคัดบอลโลกที่เคยสดใส กลับเริ่มสั่นคลอน และนับจากนั้น ไทย ก็ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้อีกเลย ใน 3 เกมต่อมา จนกระทั่งหมดลุ้นไปในที่สุด
คาดว่า เกมนี้ทั้ง 2 ทีมจะสู้กันได้อย่างสนุกสูสี และมีโอกาสไม่น้อยที่เกมจะจบลงด้วยผลเสมอ ทว่าสุดท้ายแล้ว ยังคงเชื่อว่า ทีมชาติไทย ที่นัดนี้ต้องสู้เต็มที่แบบไม่มีอะไรจะเสีย น่าจะมีดีพอที่จะแก้แค้น เบียดคว้าชัยได้สำเร็จ พร้อมจบในอันดับ 3 เพื่อเป็นรางวัลปลอบใจให้กับแฟนบอลชาวไทย
ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่
อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! bit.ly/2PsYXMG หรือ กด *301*32# โทรออก
This website uses cookies.