Football Sponsored

คาด “ทีมชาติไทย” อยู่โถ 2 แบ่งโถจับสลาก เอเชียนคัพ 2023 รอบคัดเลือก – ไทยรัฐ

Football Sponsored
Football Sponsored

คาดผลการแบ่งโถก่อนการจับสลากแบ่งสาย ฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 รอบคัดเลือก ทีมชาติไทย จะอยู่ในโถที่ 2 หากนับตามอันดับโลกล่าสุด

วันที่ 18 มิ.ย. 64 “ช้างศึก” ทีมชาติไทย หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ด้วยการรั้งอันดับที่ 4 ของกลุ่มจี มี 9 คะแนน หมดสิทธิ์เข้าไปเล่นในรอบ 12 ทีมสุดท้ายแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทัพช้างศึกยังได้สิทธิ์เข้ารอบคัดเลือก “เอเชียนคัพ 2023” รอบคัดเลือก รอบ 3 ร่วมกับอีก 21 ประเทศ คือ อุซเบกิสถาน, ทาจิกิสถาน, คูเวต, บาห์เรน, เติร์กเมนิสถาน, จอร์แดน, ปาเลสไตน์, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, คีร์กีซสถาน, มองโกเลีย, อินเดีย, สิงคโปร์, อัฟกานิสถาน, ฮ่องกง, มัลดีฟส์, ศรีลังกา, เมียนมา, เยเมน และ บังคลาเทศ

สำหรับการแบ่งโถก่อนการจับสลากเบื้องต้นในรอบแบ่งกลุ่ม รอบ 3 จะแบ่งทีมในโถต่างๆ ตามอันดับโลกล่าสุด (ฟีฟ่าแรงกิ้ง) ซึ่งทีมชาติไทยที่รั้งอันดับ 106 ของโลก จะได้อยู่โถที่ 2 ร่วมกับ ทาจิกิสถาน, เติร์กเมนิสถาน, ฟิลิปปินส์, ฮ่องกง และ เมียนมา ในขณะที่วันจับสลากและวันแข่งขันจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

คาดผลการแบ่งโถก่อนการจับสลากแบ่งสาย ฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 รอบคัดเลือก

โถที่ 1 

อุซเบกิสถาน (อันดับ 86 ของโลก)

จอร์แดน (อันดับ 95 ของโลก)

บาห์เรน (อันดับ 98 ของโลก)

คีร์กีซสถาน (อันดับ 99 ของโลก)

ปาเลสไตน์ (อันดับ 104 ของโลก)

อินเดีย (อันดับ 105 ของโลก)

โถที่ 2 

* ทีมชาติไทย (อันดับ 106 ของโลก)

ทาจิกิสถาน (อันดับ 121 ของโลก)

ฟิลิปปินส์ (อันดับ 125 ของโลก)

เติร์กเมนิสถาน (อันดับ 130 ของโลก)

เมียนมา (อันดับ 139 ของโลก)

ฮ่องกง (อันดับ 144 ของโลก)

โถที่ 3

เยเมน (อันดับ 145 ของโลก)

คูเวต (อันดับ 148 ของโลก)

อัฟกานิสถาน (อันดับ 149 ของโลก)

มาเลเซีย (อันดับ 153 ของโลก)

มัลดีฟส์ (อันดับ 155 ของโลก)

สิงคโปร์ (อันดับ 159 ของโลก)

โถที่ 4

เนปาล (อันดับ 171 ของโลก)

บังคลาเทศ (อันดับ 184 ของโลก)

มองโกเลีย (อันดับ 196 ของโลก)

ศรีลังกา (อันดับ 204 ของโลก)

รวมกับอีก 2 ทีมที่ผ่านเข้ามาจากรอบเพลย์ออฟ (อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ไต้หวัน, กวม)

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.