Football Sponsored

ความจริงที่ต้องยอมรับ! ทีมชาติไทย กับความล้มเหลวคัดบอลโลก – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

จบลงเป็นที่เรียบร้อยสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย โดยทัพช้างศึกทีมชาติไทย ผลงานไม่เป็นไปตามเป้าอดไปรอบ 12 ทีมสุดท้าย หลังจากก่อนหน้านี้ 3 นัดที่เหลือเราหวัง 9 แต้มเต็มแต่ทำได้แค่เพียง 1 แต้มด้วยการเสมอ อินโดนิเซีย 2-2 จากนั้นแพ้ ยูเออี ต่อด้วย แพ้ มาเลเซีย ตกรอบไปแบบทำเอาแฟนบอลชาวไทยผิดหวัง

    และที่ทำให้ชอกช้ำเช้าไปอีกก็คือเราจะการคัดบอลโลกด้วยการเป็นอันดับที่ 4 ของกลุ่มพูดง่าย คือรองบ๊วยเพราะทีมชาติไทยมีคะแนนเหนือ อินโดนิเซีย ทีมเดียวเท่านั้น รวมไปถึง 8 นัดในคัดบอลโลกครั้งนี้เราเก็บชัยชนะได้เพียงแค่สองเกม ยิงประตูได้ไม่ถึงหลักสิบพร้อมกับเสียไป 9 ประตู ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า ช้างศึก สมควรที่จะอดไปรอบ 12 ทีมสุดท้ายจริงๆ

    คนที่ต้องรับผิดชอบผลงานแน่นอน ต้องเป็น โค้ช อากิระ นิชิโนะ ที่ไม่สามารถทำตามเป้าหมายได้แถมยังโดนวิจารณ์หนักเพราะว่าตอนนี้ทีมชาติไทยในยุคของ อากิระ นิชิโนะ รูปแบบการเล่นแทบไม่มีโดยเฉพาะในเกมนัดสุดท้ายที่แพ้ มาเลเซีย โดยเฉพาะครึ่งหลังที่ดูแล้วอึดอัดมองไม่เห็นอนาคตไม่ต่างจากการทำทีมของ มิโลวาน ราเยวัช ทั้งที่ก่อนจะเริ่มเกมนัดเจอ มาเลเซีย ช้างศึก ได้พักมาหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ

    แต่ทว่ารูปแบบที่ออกมามันไม่ใช่และไม่มีทิศทางที่ดีเลย นอกจากนี้ตลอดสามแมตช์ที่ผ่านมา อากิระ นิชิโนะ นั้นยังหา 11 ผู้เล่นตัวจริงทีมชาติไทยชุดนี้ไม่ได้เลยทุกตำแหน่งตั้งแต่กองหลังยันกองหน้าเปลี่ยนแปลงทุกแมตช์จนทำเอาแฟนบอลงงนักเตะบางรายที่ฟอร์มดีในไทยลีกแทบจะไม่ค่อยได้โอกาสมากเท่าไหร่ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับเฮดโค้ชระดับ อากิระ นิชิโนะ 

    ต้องยอมรับว่าตลอด 2 ปีที่ผ่านมานั้น อากิระ นิชิโนะ นั้นยังรู้จักนักเตะไทยเราไม่ดีพอจริงๆ จับนักเตะหลายคนไปเล่นแบบฝืนธรรมชาติรวมถึงแทคติกวิธีการไม่สื่อสารให้นักเตะเข้าใจได้สุดท้ายผลงานออกมาอย่างที่เห็นทั้งผลการแข่งขันและรูปแบบการทำทีมสอบตกอย่างชัดเจนจนปฏิเสธไม่ได้

    น่าสนใจว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะเอายังไงต่อไปกับอนาคตของ โค้ชอากิระ นิชิโนะ รวมไปถึงสมาคมต้องตอบคำถามแฟนบอลชาวไทยว่าเกิดอะไรขึ้นกับทีมชาติไทยทำไมตอนนี้ทัพช้างศึก กำลังเดินถอยหลัง กลายเป็นว่าในอาเซียนยังชนะคู่ต่อสู้ยากเลย ซึ่งทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบทั้งสมาคมเฮดโค้ชรวมไปถึงนักเตะกับผลงานที่เกิดขึ้น

    หลังจากนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับทีมชาติไทยต้องทำงานให้หนักมากขึ้นความล้มเหลวในคัดบอลโลกครั้งนี้คือบทเรียนที่ใหญ่จริงๆและไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก ต้องมีการวางแผนการทำทีมต่างๆที่ดีกว่านี้เพราะถ้าเกิดปล่อยให้แย่กว่านี้น่าเป็นห่วงมากสำหรับทีมชาติไทยแต่ยังไงแฟนบอลชาวไทยก็ภาวนาให้ ช้างศึก ผ่าน วิกฤตนี้ไปให้ได้ เพื่อที่แฟนบอลชาวไทยจะกลับมามีความสุขอีกครั้ง

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.