ความพร้อมศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบสอง โซนเอเชีย กลุ่มจี นัดสุดท้าย ที่สนามอัล มัคตูม สเตเดี้ยม เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จะพบกับ “เสือเหลือง” มาเลเซีย ในเวลา 23.45 น. ซึ่งคู่นี้เจอกันมาแล้วเกมแรก ทีมไทยบุกไปพ่าย 1-2 ที่บูกิต จาลิล เมื่อปลายปี 62
สำหรับ “ช้างศึก” เวลานี้รั้งอันดับ 3 ของตาราง ลงเล่น 7 นัด มี 9 คะแนน หมดลุ้นเข้ารอบไปแล้ว โดยเกมนี้มีข่าวดีเมื่อ 2 แนวรับอย่าง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับ วรวุฒิ นามเวช รวมไปถึง ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร มิดฟิลด์ จาก เลสเตอร์ ซิตี้ หายเจ็บพร้อมกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง แต่ในเรื่องการจัดทัพ อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่นยังไม่ยอมเปิดเผยว่าจะมีการปรับแท็กติกมากน้อยแค่ไหน รวมถึงจะให้โอกาสแข้งรายอื่นที่ยังไม่ได้ลงสนามใน 2 นัดที่ผ่านมา ได้ลงสัมผัสเกมบ้างหรือไม่
นิชิโนะ กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “ตอนนี้พวกเราจะพยายามทำเต็มที่ทำให้ดีที่สุด ที่ผ่านมาเราไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลย เราต้องการผ่านเข้ารอบต่อไป แต่ตอนนี้เราหมดโอกาสแล้ว แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุดเสมอ ทุกคนยังหวังในตัวพวกเรา เกมในวันพรุ่งนี้กับมาเลเซีย เราห้ามแพ้พวกเขาเด็ดขาด และจะพยายามทำให้ได้”
“จุดแข็งของมาเลเซีย น่าจะเป็นเรื่องความแข็งแรงของนักเตะ และมีการปะทะที่ค่อนข้างหนัก พวกเราต้องพยายามจัดการ และแสดงศักยภาพของเราออกมา ไม่ว่าจะเป็นการผ่านบอล การใช้ความเร็วและทักษะเอาชนะพวกเขา”
“เราจะพยายามแก้ไขเกมรับให้ดี จะไม่โทษกองหลังอย่างเดียว พวกเราต้องพยายามช่วยเหลือกันและทำให้ดีทั้งทีม ฟุตบอลมีทั้งสองแบบ คือเกมรุก และเกมรับ ถ้ามีบอลเราก็ทำเกมรุก ถ้าไม่มีบอลเราก็ต้องทำเกมรับ และต้องระวังในจังหวะเปลี่ยนสถานการณ์ให้ดี”
ด้านทีมชาติมาเลเซีย ปัจจุบันรั้งอันดับ 4 ของตาราง ลงเล่น 7 นัดมี 9 แต้มเช่นกัน โดย ตัน เชง โฮ กุนซือ “เสือเหลือง” พร้อมส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามทั้งหมดเพื่อหวังล้มทีมไทยให้ได้ นำโดยบรรดานักเตะลูกครึ่งและแข้งโอนสัญชาติหลายราย ไม่ว่าจะเป็น ลิริดอน คราสนีคี จอมทัพเชื้อสายโคโซโว, โมฮามาดู ซูมาเรห์ กองหน้าเชื้อสายแกมเบีย และ กิเยร์เม่ เดอ เปาล่า ดาวยิงเชื้อสายบราซิล
เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV
This website uses cookies.