Football Sponsored

เหลือเชื่อ!!! “ช้างศึก-เสือเหลือง” สถิติเป็นรองอื้อซ่า – ผู้จัดการออนไลน์

Football Sponsored
Football Sponsored


แฟนเพจ ฟุตบอลทีมชาติไทย มีการเปิดเผยสถิติการดวลกันระหว่างทีมชาติไทย กับทีมชาติมาเลเซีย ปรากฎว่าทัพ “ช้างศึก” มีสถิติเป็นรองอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

โดยทีมชาติไทย เตรียมลงสนามนัดสุดท้ายศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย พบกับ ทีมชาติมาเลเซีย ในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ และจำเป็นต้องชนะ เพื่อคว้าโควต้าไปแข่งขันฟุตบอลเอเชียน คัพ 2023

อย่างไรก็ตามจากการเปิดเผยข้อมูลผ่านแฟนเพจ ทัพ “ช้างศึก” เผยสถิติการพบกันของทีมชาติไทย กับ ทีมชาติมาเลเซีย มีดังนี้
– พบกันทั้งหมด 111 ครั้ง
– ทีมชาติไทย ชนะ 35 ครั้ง
– เสมอ 35 ครั้ง
– ทีมชาติมาเลเซีย ชนะ 41 ครั้ง

ขณะที่สถิติการพบกัน 4 นัดหลังสุด ทีมชาติไทย ไม่สามารถชนะ มาเลเซีย ได้เลย โดยครั้งสุดท้ายที่ ไทย ชนะ มาเลเซีย ต้องย้อนไปเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2014 ซึ่ง ไทย เปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน เอาชนะไป 2-0 ในฟุตบอลแชมป์อาเซียน 2014 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ก่อนที่นัดสองจะบุกไปแพ้ ที่สนามบูกิต จาลิล 2-3 ทำให้ สกอร์รวม ไทย ชนะ 4-3 พร้อมคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ

ส่วนสถิติการพบกันในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เจอกันทั้งหมด 4 ครั้งทีมชาติไทย ไม่เคยชนะ เสมอ 1 ครั้ง และ แพ้ 3 ครั้ง

สำหรับ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม G นัดสุดท้าย พบกับ ทีมชาติมาเลเซีย ในวันอังคารที่ 15 มิถุนายน 2564 เวลา 23.45 น. สนามอัล มัคตูม ถ่ายทอดสดทางช่อง ไทยรัฐทีวี

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.